Digital Marketing
March 8,2023
การทำธุรกิจในโลกดิจิทัล ถือว่ามีความสะดวกและประสบความสำเร็จง่ายขึ้นกว่าในอดีต จากความสามารถของเครื่องมือเทคโนโลยีทางการตลาดออนไลน์ ที่มีให้เลือกใช้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ Google Analytics 4 หรือชื่อที่เรียกสั้นๆว่า GA4 เป็นเครื่องมือรายงานผลและวิเคราะห์ผลเว็บไซต์ เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดจาก Google หากเจ้าของธุรกิจใช้เครื่องมือตัวนี้เป็นก็จะช่วยสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาล
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Google Analytics 4 มีส่วนช่วยธุรกิจได้อย่างไรบ้าง? ในวันนี้ NIPA เลยจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Google Analytics 4 สุดยอดเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่ธุรกิจยุคใหม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
Google Analytics คืออะไร?
Google Analytics เป็นเครื่องมือของ Google ที่ใช้วิเคราะห์และประเมินผลเว็บไซต์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยการนำข้อมูลจากคนที่เข้าเว็บมาวิเคราะห์เป็นสถิติต่างๆ ทั้งด้านภูมิประชากรศาสตร์ (Demographic) เช่น เพศ อายุ ความสนใจและความชอบส่วนตัว หรืออาชีพของผู้เข้าชมเว็บ รวมถึงด้านพฤติกรรม (Behavior) เช่น อุปกรณ์ที่ใช้เข้าชมเว็บไซต์ ช่วงเวลาที่อยู่บนเว็บไซต์ เป็นต้น
Google Analytics จะรายงานผลลัพธ์หรือสถิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ในรูปแบบของรายงานการวิเคราะห์ (Report) ซึ่งเราสามารถเลือกดูรีพอร์ตได้หลายมิติ เช่น Audience, Acquisition, Behavior และ Conversions Reports
ทั้งนี้ Google Analytics เปิดให้ผู้คนทั่วไปได้ใช้งานกันมาแล้วถึง 4 เวอร์ชั่นด้วยกัน โดยเวอร์ชั่นล่าสุด มีชื่อว่า Google Analytics 4 (GA4) มีชื่อเดิมคือ App and Web Property นับเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นที่ 3 อย่าง Universal Analytics (UA) ในหลายด้าน โดยเน้นไปที่การโฟกัสกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุดยิ่งขึ้น เน้นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data Privacy) รวมถึงการวัดผลที่แม่นยำมากขึ้น
ทาง Google ได้ปล่อย Google Analytics 4 ออกมา เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2020 โดยมีการจัดกลุ่มการรายงานผลออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.Life Cycle เป็นส่วนที่บอกพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ และ User หรือส่วนที่บอกข้อมูลพื้นฐานผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเรา
ประโยชน์ของ Google Analytics 4 ยอดขายทะลุเป้า หากเข้าใจลูกค้า
- ทำนาย พฤติกรรมในอนาคตของลูกค้าได้ จากการเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral Data) เช่น อัตราการคลิกดูบทความรีวิวสินค้า อัตราการกด Skip วิดีโอ มาวิเคราะห์เพื่อให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าและคาดการณ์สิ่งที่ลูกค้าจะซื้อในอนาคต
- เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของผู้คนที่เข้ามาในเว็บไซต์หรือ Application รู้ว่าคนที่เข้ามาดูเว็บ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมากกว่ากัน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ผู้คนใช้เวลาไปกับเว็บไซต์หน้าไหนหรือสนใจเรื่องอะไรบนเว็บไซต์มากที่สุด จากนั้นก็นำข้อมูลดังกล่าวไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายได้ต่อไป
- รู้ว่าสินค้าใด ขายดีที่สุดหรือขายได้น้อยที่สุด ในแต่ละช่วงเวลา โดยอาจนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำแคมเปญลดราคาสินค้าหรือจัดโปรโมชั่นพิเศษ ในระยะเวลาที่เหมาะสม
- รู้ว่าผู้คนเข้ามาเว็บไซต์ของเรา จากช่องทางไหนบ้าง เช่น Social Media, Email, Line หรือเข้ามาจากอุปกรณ์ใดบ้าง เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือ PC
- ปรับปรุงเว็บไซต์หรือ application ให้ดึงดูดความสนใจของผู้คนยิ่งขึ้น ทั้งด้านการใช้งาน การโปรโมทสินค้า ไปจนถึงเนื้อหาคอนเทนต์บนเว็บไซต์ เช่น หากเนื้อหาส่วนใดมีผู้สนใจมาก ก็อาจเพิ่มเติมเนื้อหาส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปให้ครอบคลุมทุกมิติ ส่วนเนื้อหาแบบใดที่มีผู้สนใจน้อย ก็อาจปรับแก้คอนเทนต์ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
- ใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย! แค่มี Gmail Account ก็เริ่มต้นใช้งานได้ทันที
ความสามารถของ Google Analytics 4
Google Analytics 4 มีการอัพเกรดความสามารถและเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ จากรุ่น Universal Analytics อยู่พอสมควร ยกตัวอย่างเช่น
- Acquisition เป็นรายงานส่วนที่บอกว่า มีผู้คนเข้ามาดูเว็บของเราจากช่องทางไหนบ้าง ใช้เวลาบนเว็บเฉลี่ยคนละกี่นาที โดยจะแปรผลออกมาในรูปแบบของ Engagement Rate ซึ่งเมื่อแบรนด์รู้ว่ามีคนเข้ามาจากช่องทางไหนมากกว่ากัน ก็สามารถจัดสรรงบการตลาดได้ดียิ่งขึ้น
- Engagement เป็นรายงานที่บอกภาพรวมการใช้งานเว็บไซต์ เช่น คอนเทนต์ที่มีผู้ใช้งาน (User) สนใจมากที่สุด คอนเทนต์ที่ผู้คนให้ความสนใจ หรือเวลาเฉลี่ยที่ใช้อ่านแต่ละบทความโดยแบรนด์สามารถปรับแผนการทำคอนเทนต์ให้ตอบสนองความสนใจของผู้อ่านได้
- Monetization เป็นรายงานที่เกี่ยวกับการซื้อขายบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานบนเว็บไซต์ สินค้ายอดนิยมที่ User คลิกเข้าไปดูมากหรือน้อยที่สุด สินค้าที่ผู้คนกด Add to Cart หรือจำนวนลูกค้าที่ซื้อครั้งแรก (First Time Buyer) รายงานส่วนนี้จึงเหมาะกับธุรกิจ E-commerce หรือร้านค้าออนไลน์ที่มีบริการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ ขณะเดียวกัน แบรนด์ยังสามารถนำข้อมูลนี้ไปวางกลยุทธ์การตลาด พร้อมปรับปรุง Customer Experience ให้ดีขึ้น
- Retention เป็นรายงานที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ เช่น จำนวน User ที่กลับเข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา (Returning Visitor) หากมีจำนวนมากขึ้นก็หมายถึงลูกค้ายังคงมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ แต่หากมีจำนวนลดลง นั่นหมายถึงธุรกิจต้องปรับคุณภาพการให้บริการหรือรูปแบบการใข้งานเว็บไซต์ให้ดีขึ้น
- Demographic & Tech เป็นส่วนที่บอกข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเราและอุปกรกรณ์ที่ใช้เข้าถึงเว็บ สามารถนำไปใช้วิเคราะห์การยิง Ad โฆษณาให้ตรงกลุ่มยิ่งขึ้น
- Real Time Report จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Google Analytics 4 คือการรายงานผลแบบเรียลไทม์ ทำให้รู้ว่าในช่วงเวลานี้มี User เข้ามาดูเว็บไซต์ของเรากี่คน อยู่ที่หน้าเว็บไหนกันบ้าง หรือเข้ามาจากช่องทางใดบ้าง หรือทำให้แบรนด์รู้ว่าแคมเปญการตลาดในช่วงเวลานั้นมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร มีผู้สนใจเข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเราตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่
วิธีติดตั้ง Google Analytics 4
- กดเข้าไปที่ลิงก์นี้ https://marketingplatform.google.com/about/analytics/ จากนั้นลงทะเบียนสมัครใช้งานด้วยบัญชี Gmail
- กด “เริ่มวัด” หรือ “Start” measuring”
- สร้างบัญชี Account แล้วกดปุ่ม ถัดไป
- ตั้งชื่อ Property (หรือการเพิ่มเว็บไซต์ของเราเข้าไปใน GA4) แล้วกดปุ่ม ถัดไป
- กรอกข้อมูลทางธุรกิจให้ครบถ้วน จากนั้นคลิก ฉันยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
- คลิกเลือก Tag ติดหัวเว็บไซต์ (gtags.js) แล้วคัดลอก นำไปวางไว้ในส่วน Header เว็บไซต์
Share on