Digital Marketing
July 23,2023
การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ แม้ว่าธุรกิจจะมีสินค้าที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง แต่หากไม่รู้เทคนิคและเคล็ดลับในการตั้งราคาสินค้าที่เข้าถึงใจลูกค้า ก็อาจทำให้ธุรกิจนั้นๆ ตกม้าตายได้เลยทีเดียว
แล้วธุรกิจควรจะตั้งราคาสินค้าออนไลน์อย่างไรให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้า แบบเห็นปุ๊บ และกดซื้อปั๊บ หรือธุรกิจควรตั้งราคาสินค้าให้สูงหรือต่ำกว่าตลาดดี ? ไปค้นหาวิธีตั้งราคาสินค้าบนโลกออนไลน์ให้สุดปังพร้อมกันได้เลย!
สิ่งที่ควรคำนึงถึง ก่อนการตั้งราคาสินค้า
- ต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรต่างๆ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าที่ ค่าแพคเกจจิ้ง
- ต้นทุนแฝง หมายถึง ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำธุรกิจ เช่น ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ค่าติดต่อสื่อสาร ค่าเสียเวลา สินค้าคงคลัง เป็นต้น
- กำไรที่ต้องการ เพราะการทำธุรกิจจำเป็นต้องมีกำไร เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ ดังนั้นกำไรจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบในการตั้งราคาสินค้า
แนะนำ 2 สูตรตั้งราคาสินค้า
- สูตรที่ 1 คิดจากต้นทุนสินค้า (Markup on Coast)
ราคาขาย = ต้นทุนสินค้ารวมต่อชิ้น + (%กำไรที่ต้องการ x ต้นทุน)
Ex. เช่นขายยาดมหงส์ไทย 30 บาท อยากได้กำไร 50 = 30 + (50% x 30) = 45 บาท
- สูตรที่ 2 คิดจากราคาขายสินค้า (Markup on Selling Price)
<p>ราคาขาย = 100 x ต้นทุนต่อชิ้น / (100 - กำไรที่ต้องการ) <br> <br><strong>Ex. ขายยาดมหงส์ทองต้นทุน 30 อยากได้กำไร 60% =</strong> (100 x 30) / (100 - 60) = 75 บาท <br> <br> </p> </li>
5 เคล็ดลับตั้งราคาสินค้าให้โดนใจลูกค้า
- ตั้งราคาสินค้าจากจุดขาย
แน่นอนว่าเจ้าของธุรกิจต่างต้องรู้จุดเด่น ความพิเศษ หรือจุดด้อยในสินค้าของตัวเอง รู้ว่าใครจะมาซื้อสินค้า รู้ว่าควรนำสินค้าไปขายที่ตรงไหน หรือมีต้นทุนต่อชิ้น และจะทำกำไรได้เท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถวางกรอบเบื้องต้นในการตั้งราคาสินค้าออนไลน์ได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
- ไม่ตั้งราคาสินค้าให้ต่ำเกินไป
เจ้าของธุรกิจมือใหม่ อาจมองว่า การตั้งราคาสินค้าให้ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด จะเป็นกลยุทธ์ที่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าให้ควักเงินซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี แต่ต้องบอกว่าวิธีการนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว เพราะลูกค้าอาจมองว่า เมื่อสินค้ามีราคาถูก หมายความว่ามีคุณภาพลดลงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน อาจส่งผลให้ลูกค้าหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นมาหน่อย แต่ได้คุณภาพที่ดีกว่าแทน ดังนั้น ธุรกิจควรตั้งราคาสินค้าที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
- ตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา
อีกหนึ่งกลยุทธ์การตั้งราคาสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้วิธีอื่นๆ คือการตั้งราคาสินค้าให้ “ยั่วยวนใจลูกค้า” ซึ่งก็มีหลากหลายวิธี เช่น
- การตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 เช่น สินค้าราคา 100 บาท ก็ตั้งราคาขายไว้ที่ 99 บาท ซึ่งลูกค้ามักจะซื้อสินค้าที่มีตัวเลขที่น้อยกว่า เพราะเป็นตัวเลขที่ทำให้รู้สึกไม่แพงมาก
- การให้ส่วนลดเป็นทอดๆ เช่น การแบ่งส่วนลดเป็น 2 รอบ เช่น 20% และ 30% แทนที่จะให้ส่วนลดเลยทีเดียว 50% ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าและช่วยให้ธุรกิจสามารถขายของได้มากขึ้นนั่นเอง
- ตั้งราคาสินค้ากับค่าส่งแยกกัน
ค่าส่งฟรี เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถโน้มน้วใจลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง แต่เจ้าของธุรกิจที่อยากวางขายสินค้าในแพลตฟอร์ม E-commerce ต่างๆ เช่น Shopee, Lazada ควรตั้งราคาสินค้าและค่าขนส่งแยกออกจากกัน ไม่ควรบวกเข้าไปในราคาสินค้า เพราะลูกค้าที่ซื้อในแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะดูที่ราคาเป็นหลัก ทำให้เกิดการเปรียบเทียบราคา และทำให้พวกเขาตัดสินใจซื้อในร้านที่ถูกกว่าได้
กลับกัน หากธุรกิจไหนมีเว็บไซต์ขายของเป็นของตนเอง ก็สามารถตั้งราคาสินค้าโดยบวกค่าขนส่งเข้าไปด้วยได้เลย เพราะลูกค้าจะให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากกว่าการเปรียบเทียบนั่นเอง
- จัดโปรโมชันราคาให้น่าสนใจ
เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสนใจและเพิ่มโอกาสควักเงินซื้อสินค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น การจับคู่สินค้า การแถมสินค้า การลดราคาสินค้า แต่ธุรกิจไม่ควรจัดโปรโมชันบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ราคาสินค้าจริงก็คือราคาโปรโมชัน และลูกค้าจะรอซื้อสินค้าแต่ในช่วงโปรโมชันนั่นเอง ดังนั้น ธุรกิจจึงควรเลือกช่วงเวลาจัดโปรโมชันเป็นหลัก เช่น ช่วงต้นเดือน หรือวัน Double Day เช่น 5.5 , 7.7
Share on