SEO
July 9,2024

หลายๆ คนที่หันมาทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และต้องการโฆษณาเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีคนคลิก คนเข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก เพื่อให้สินค้าและบริการของตัวเองเป็นที่รู้จัก สร้างโอกาสปิดการขาย และทำยอดให้กับธุรกิจ คงต้องผ่านขั้นตอนบริหารจัดการ และวางแผนโฆษณาเว็บไซต์โดยการเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการทำ SEO ที่ต้องเริ่มต้นจากการเลือกใช้ Keyword ให้มีประสิทธิภาพ ตรงกับปริมาณการค้นหาเกิดขึ้น ยิ่งเลือกได้ดี keyword ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายกำลังมองหา ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการโฆษณาเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น
ความสำคัญของการเลือกใช้ Keyword ในการทำ SEO ที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้
การเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กิจการของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์
- เพิ่มโอกาสในการติดอันดับในผลการค้นหา (Search Engine Ranking): การใช้ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มโอกาสในการนำเว็บไซต์ขายของของคุณไปแสดงในอันดับสูงขึ้นบนหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing เป็นต้น
- เพิ่มความเหมาะสมของเนื้อหา (Relevance): Keyword ที่ถูกเลือกจะบอกถึงภาพรวมคร่าวๆ ของเนื้อหาภายในเว็บไซต์ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง เพื่อนำส่งให้กลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสนใจต่อเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้ผู้เข้าชมมีประสบการณ์ที่ดีต่อเว็บไซต์ของคุณ
เพิ่มจำนวนและคุณภาพของการเข้าชม (Traffic): Keyword ที่เหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการค้นพบและมีปริมาณการเข้าชมมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายหรือเลือกใช้บริการในเว็บไซต์ของคุณ - เพิ่มโอกาสในการบอกต่อและการกลับมาใช้บริการอีกครั้ง (Engagement and Return Visits): เนื่องจาก Keyword ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น นั่นอาจเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจและกระตุ้นให้กลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณอีกครั้ง
- เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม (Market Segmentation): การเลือกใช้ Keyword ต่างๆ ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น คำค้นหาที่เป็นภาษาท้องถิ่นหรือคีย์เวิร์ดที่ใช้ในกลุ่มเฉพาะ
Bubble Chart คืออะไร ช่วยในการคัดเลือก Keyword เพื่อโฆษณาเว็บไซต์ได้อย่างไร
Search Console Bubble Chart สามารถเรียกใช้ได้บน Google Search Console ใช้ในการแสดงข้อมูลเป็นกราฟแบบวงกลม (Bubble chart) แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Keyword กับ Metrics ต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
-
<p dir="ltr"><strong>Query :</strong> คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ดที่พาผู้ใช้มายังหน้าเว็บไซต์ของเรา</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>Device Category :</strong> ชนิดของอุปกรณ์ที่ผู้คนใช้ แสดงผ่านสีของวงกลม</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>CTR : </strong>Click Through Rate หรือ อัตราที่ผู้คนคลิกเข้ามายังเว็บไซต์หลังจากมองเห็น (Impression) ในหน้าค้นหา</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>Average Position :</strong> อันดับเว็บไซต์บนหน้าค้นหาของ Google </p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>Clicks :</strong> จำนวนครั้งในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ แสดงผลผ่านขนาดของวงกลม</p> </li>
การใช้งาน Search Console Bubble Chart ช่วยให้ผู้ที่ทำเว็บไซต์สามารถเห็นภาพรวม ดูแนวโน้มและความสัมพันธ์ของ Keyword ต่างๆ ที่มีผลต่อการทำ SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกิจกรรม SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดอันดับในผลการค้นหาของ Google ได้มากขึ้น โดยสามารถแบ่งการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดได้เป็น 4 กรณีหลักๆ ดังนี้
-
<p dir="ltr"><strong>ตำแหน่งของวงกลมอยู่สูง และ CTR ไปทางขวาค่อนข้างมาก</strong></p> </li>
คีย์เวิร์ดเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูง สามารถเรียกผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้มาก ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม
-
<p dir="ltr"><strong>ตำแหน่งของวงกลมอยู่ต่ำ แต่ CTR ไปทางขวาค่อนข้างมาก</strong></p> </li>
คีย์เวิร์ดเหล่านั้นยังอยู่ในอันดับที่ไม่ดีพอ แต่สามารถเรียกกลุ่มเป้าหมายมาเข้าชมเว็บไซต์ได้ค่อนข้างเยอะ เป็นคีย์เวิร์ดที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภค จึงเป็นกลุ่มคีย์เวิร์ดที่คนทำเว็บไซต์ต้องให้ความใส่ใจ และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ได้อันดับที่ดียิ่งขึ้น
-
<p dir="ltr"><strong>ตำแหน่งของวงกลมอยู่ต่ำ และ CTR ไปทางซ้ายค่อนข้างมาก</strong></p> </li>
คีย์เวิร์ดในกลุ่มนี้อยู่ในอันดับที่ไม่ดีพอ และดึงดูดให้ผู้คนคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ได้น้อย แต่สำหรับคนที่ทำเว็บไซต์แล้ว คีย์เวิร์ดเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถละเลยได้ในทันที จะต้องพิจารณาขนาดของวงกลมร่วมด้วย ถ้าวงกลมมีขนาดใหญ่แปลว่ายังมีคนคลิกเยอะ ต่อให้ได้ยอด CTR น้อย แต่ก็ยังมีคนให้ความสนใจสูง เมื่อเทียบกับคีย์เวิร์ดอื่นๆ คีย์เวิร์ดในกลุ่มนี้จึงเป็นโอกาสสำหรับคนทำเว็บไซต์ให้พิจารณาหยิบไปใช้ และพัฒนาต่อยอดคีย์เวิร์ดเหล่านี้ให้ได้อันดับที่ดียิ่งขึ้น
-
<p dir="ltr"><strong>ตำแหน่งของวงกลมอยู่สูง และ CTR ไปทางซ้ายค่อนข้างมาก</strong></p> </li>
คีย์เวิร์ดอยู่ในอันดับดีแต่ดึงดูดให้ผู้คนคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ได้น้อย เกิดได้จากหลายเหตุผล เช่น คู่แข่งทำโครงสร้างข้อมูลออกมาดีกว่า ยอดการเข้าชมจึงถูกคู่แข่งดึงดูดไปที่เว็บไซต์ของเขามากกว่า หากเป็นด้วยเหตุผลนี้ คนทำเว็บไซต์ต้องหันกลับมาพัฒนาที่โครงสร้างเว็บไซต์ของเราเองก่อน ตรวจสอบการเปิดใช้ฟีเจอร์ผลการค้นหา (Search result features) เป็นต้น
แชร์ทริคเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดเลือก Keyword
-
<p dir="ltr"><strong>ตั้งค่าช่วงเวลาที่เหมาะสม:</strong> ก่อนที่จะเริ่มการวิเคราะห์ด้วย Bubble Chart ควรตั้งค่าช่วงเวลาที่ถูกต้อง เช่น เลือกช่วงเวลาย้อนหลัง 1 เดือนหรือ 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะแสดงถึงแนวโน้มและข้อมูลที่สมบูรณ์เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์ Keyword ที่น่าสนใจ</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>เลือก Metrics ที่เหมาะสม:</strong> Bubble Chart สามารถแสดง Metrics หลายอย่าง เช่น จำนวนครั้งที่แสดงผล (impressions), จำนวนครั้งที่คลิก (clicks), อัตราคลิก (CTR), และตำแหน่งที่คำค้นได้ (Average position) ควรเลือก Metrics ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของคุณ เช่น หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการคลิก ควรใช้ CTR เป็น Metrics หลัก</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>วิเคราะห์แนวโน้ม: </strong>ดูให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจแนวโน้มที่แสดงบน Bubble Chart โดยดูที่การกระจายของวงกลม (ฺBubbles) ว่า Keyword ไหนมีการคลิกสูงแต่ตำแหน่งอาจไม่ดีหรือ Keyword ไหนที่มีการแสดงผลมากแต่คลิกน้อย เพื่อที่จะได้มีการปรับปรุง Keyword ที่เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพได้</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr"><strong>คัดเลือก Keyword ที่มีโอกาสสำเร็จสูง: </strong>ด้วย Bubble Chart คุณสามารถคัดเลือก Keyword ที่มีโอกาสสำเร็จในการทำ SEO สูงสุดได้โดยดูที่คำค้นที่มีคลิกสูง และมีตำแหน่งที่ดีซึ่งเป็นสัญญาณว่า Keyword นั้นๆ มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำ SEO เพื่อโฆษณาเว็บไซต์</p> </li>
การเลือก Keywords เพื่อใช้ในการทำ SEO เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการโฆษณาเว็บไซต์ หากสามารถตั้งต้นได้ดี ย่อมส่งผลดีต่อก้าวถัดๆ ไป เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของการทำเว็บไซต์ การมองหาบริการรับทำเว็บไซต์ e-commerce โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ
Nipa Agency มีบริการรับทำเว็บไซต์ e-commerce ดูแลให้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไปจนถึงวางแผนการโฆษณาเว็บไซต์ ดำเนินการด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณก้าวไปสู่เป้าหมายที่กำหนดได้ในราคาที่เหมาะสม ไม่ผิดกฎของ Google และรักษาผลลัพที่ดีได้ในระยะยาว
Share on




