Digital Marketing
July 21,2020
จีนนับว่าเป็นประเทศทรงอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจของโลก ซึ่งมีกลยุทธ์ทางด้านแผนการตลาดออนไลน์ที่แข็งแรง และสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว สำหรับคนไทยหลายๆ คน เมื่อหันมองเครื่องใช้ภายในบ้านก็เริ่มมีสินค้าแบรนด์ดังจาก ‘จีน’ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์อย่าง ‘Xiaomi’ หรือ ‘เสียวหมี่’ หนึ่งในแบรนด์ที่ทำให้คนไทยลืมภาพจำเดิมๆ ของสินค้าจากประเทศจีนไปอย่างสิ้นเชิง
ทำให้กลยุทธ์แผนการตลาดออนไลน์ของแบรนด์ ‘Xiaomi’ น่าสนใจอย่างมาก ในการใช้งานสื่อโฆษณาออนไลน์ หรือ สื่อโฆษณาอื่นๆ ในการสร้างแบรนด์ให้กลายเป็นที่ยอมรับ จนในปัจจุบันสามารถ เติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงถึง 102.6% ในปี 2017 และมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของครึ่งปีแรก ปี 2018 อยู่ที่ 9.3% ถือเป็นอันดับ 4 ของโลก
ก้าวแรกของแบรนด์ Xiaomi ในต่างแดน
แน่นอนว่า ‘Xiaomi’ แบรนด์จากจีนสามารถมัดใจคนภายในประเทศได้ก่อน จึงขยายแผนการตลาดออนไลน์สู่ต่างประเทศ ซึ่งแบรนด์ Xiaomi เลือกโฟกัสที่ตัวสินค้าเป็นหลัก ต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยมีแนวทาง “สินค้าคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้” เป็นหลัก โดยก้าวแรกของแบรนด์ Xiaomi ถือว่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างมาก
เนื่องจากไม่มีการเปิดขายผ่านหน้าร้าน และใช้แผนการตลาดออนไลน์ในการกำหนดกลยุทธ์สื่อโฆษณาออนไลน์ ทำให้ประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างอย่างมากในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็น การทำ Digital marketing , โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube ที่ช่วยให้ผู้คนบนโลกออนไลน์เห็นสินค้าได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
Xiaomi กับกลยุทธ์แบบ New Retail
ในปัจจุบัน Xiaomi มีการทำแผนการตลาด โดยยึดแนวคิด New Retail ที่เป็นการค้าขายแบบผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้คนที่ตัดสินใจซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านสื่อโฆษณาออนไลน์ และสำหรับคนที่อยากสัมผัสสินค้า ก็สามารถทำการตัดสินใจซื้อได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
ปรับตัวเองสู่แพลตฟอร์ม E-Commerce เต็มรูปแบบ
Xiaomi มีการใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ หลายๆ คนคงพบเห็น โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube ที่เป็นสื่อกลางในการพาผู้คนไปยังแพลตฟอร์ม E-Commerce เช่น Lazada และ shopee โดยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานทุกเพศ ทุกวัย ทั้งวัยรุ่น วันทำงาน และผู้สูงอายุ
Xiaomi วางแผนการเดินทางของผู้บริโภค หรือ Customer Journey อย่างไร?
1. สร้างการรับรู้ (Awareness)
ทั้งหน้าร้านออฟไลน์และสื่อโฆษณาออนไลน์ เช่น โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube
2. การค้นหาข้อมูล (Evaluation)
สร้างสื่อการรับรู้ด้านข้อมูลที่ละเอียดของสินค้า เช่น สเปคสินค้า, ขนาด, สื่อวิดีโอ, รูปภาพที่ชัดเจน หรือ วิธีการใช้งาน รวมถึงการรีวิวสินค้าที่แพร่หลายอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น pantip, Youtube เป็นต้น
3. ตัดสินใจซื้อ (Purchase)
เข้าถึงการซื้อได้ง่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ บนช่องทาง E-Commerce อย่าง Lazada, Shopee เป็นต้น
4. การใช้งาน (Usage)
ใส่ใจกับสินค้าที่มีคุณภาพและราคาจับต้องได้ง่าย ทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจ
5. ซื้อซ้ำ (Repurchase)
เมื่อเกิดความประทับใจกับสินค้า ทำให้ผู้ใช้งานเกิดการซื้อซ้ำนั่นเอง
6. การสนับสนุน (Advocacy)
ขั้นต่อไปเมื่อผู้บริโภคเกิดความประทับใจอย่างมาก และต้องการสนับสนุนก็จะมีการบอกต่อ ในช่องทางออไลน์ต่างๆ เช่น Pantip, facebook หรือช่องทางการรีวิวอื่นๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับแบรนด์ภายในประเทศไทย ก็สามารถนำกลยุทธ์แผนการตลาดของ Xiaomi ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน สื่อโฆษณาออนไลน์, แนวคิดของการพัฒนาคุณภาพสินค้า หรือ การวางแผนการเดินทางของผู้บริโภค (Customer Journey) เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแบรนด์มากขึ้นนั่นเอง
Share on