02-639-7878 ต่อ 990

เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.

ปิดหน้าต่างนี้
โฆษณาบน LINE
โฆษณาบน Facebook
โฆษณาบน Instagram
โฆษณาบน Google
โฆษณาบน YouTube
โฆษณาบน Twitter
โฆษณาบน TikTok
รับออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจ
SEO ( Search Engine Optimization )
Content Marketing
การตลาดบน E-mail และ SMS
รับจ้างรีวิวสินค้า และบริการ
รับทำวิดีโอโฆษณา
โฆษณาบน Facebook Ads
บริการ ChatBot
ยืนยัน
Nipa Digital Marketing Add Line Nipa Digital Marketing Messenger
Website

Bounce Rate คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ของธุรกิจ

หน้าหลัก
บทความ
Website
Bounce Rate คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ของธุรกิจ
Bounce Rate คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ของธุรกิจ

Bounce Rate



Bounce Rate คืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อการทำเว็บไซต์ของธุรกิจ 

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า การทำเว็บไซต์ที่แบรนด์ทุ่มงบลงไปได้รับผลตอบรับดีขนาดไหน หรือโฆษณาเว็บไซต์ที่ได้เทเงินลงไป ได้รับความสนใจจากคนที่คลิกเข้ามาเยี่ยมชมมากน้อยเท่าไหร่ ? ซึ่งตัวชี้วัดอย่างหนึ่งที่นักการตลาดนิยมใช้วัดประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์ โฆษณาเว็บไซต์ รวมถึงไปจนถึงการทำ SEO, SEM นั่นก็คือ Bounce Rate นั่นเอง


แล้ว Bounce Rate ที่หลายคนเคยได้ยินนี้คืออะไร เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของเว็บไซต์ได้อย่างไรบ้าง แล้วควรจะทำอย่างไรให้ค่า Bounce Rate อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ใครที่กำลังมีข้อสงสัยเหล่านี้อยู่ ก็มาค้นหาคำตอบได้ที่บทความนี้ได้เลย! 


Bounce Rate คืออะไร

Bounce Rate หรืออัตราการตีกลับ เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของการทำเว็บไซต์หรือการโฆษณาเว็บไซต์ โดยจะบ่งบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้เยี่ยมชมที่เข้ามายังเว็บเพจหน้าใดหน้าหนึ่ง แล้วกดปิด (Close) หรือกดออกจากหน้าเว็บไซต์ไป โดยที่ไม่ได้กระทำการใดๆ เช่น คลิกไปยังหน้าถัดไปเพื่อกรอกแบบฟอร์มสมัครสมาชิก หรือคลิกไปยังหน้าสั่งซื้อสินค้าที่แบรนด์ได้โฆษณาไว้ 


Bounce Rate จึงเปรียบเป็นมาตรวัดที่บ่งบอกถึงคุณภาพของการทำเว็บไซต์ว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากเพียงใด หากหน้าเว็บไซต์นั้นมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ย่อมดึงดูดให้ผู้ใช้อยู่ในหน้าเว็บนั้นได้นานขึ้นหรืออาจกระตุ้นให้เกิดการกระทำบางอย่างที่แบรนด์ต้องการได้


ค่า Bounce Rate แบบไหนที่เรียกว่า วิกฤต ? 

วิธีการดูว่า หน้าเว็บไซต์ของแบรนด์มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน สามารถดูได้จากค่า Bounce Rate เช่น

  • ค่า Bounce Rate ต่ำ หมายถึง มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ แล้วคลิกออกจากหน้าเว็บไซต์ทันที เป็นจำนวนน้อย

  • ค่า Bounce Rate สูง หมายถึง มีผู้เข้าชมหน้าเว็บไซต์ แล้วคลิกออกทันที เป็นจำนวนมาก และหากมี % สูงมากเท่าไหร่ ก็หมายถึงการมีผู้ที่คลิกออกไปทันทีเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง


ยกตัวอย่างเช่น หากหน้าเว็บไซต์ที่ขายผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ มี Bounce Rate อยู่ที่ 80% หมายความว่า 80% เป็นสัดส่วนของผู้เยี่ยมชมที่กดออกจากเว็บไซต์ หลังจากดูเพียงหน้าเดียว ส่วนอีก 20% ได้ทำการคลิกไปยังหน้าอื่นๆ ในเว็บไซต์ 


ดังนั้น แบรนด์ควรมุ่งเน้นการทำเว็บไซต์ให้มีค่า Bounce Rate ที่ต่ำ เพราะยิ่งต่ำก็ยิ่งส่งผลดีต่อหน้าเว็บไซต์หรือโฆษณาเว็บไซต์ แต่หากมี % สูงจนเกินไป ก็อาจถึงเวลาที่แบรนด์ต้องปรับปรุงการทำเว็บไซต์ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากหรือลดค่า Bounce Rate ให้ต่ำลงนั่นเอง 


แบรนด์ควรทำอย่างไรให้ Bounce Rate อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมหรือมีค่าที่ต่ำลง ? 

แบรนด์สามารถปรับปรุงหรือทำเว็บไซต์ให้ดึงดูดความสนใจของผู้เยี่ยมชมได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น 

  • ปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ที่โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและกดปิดหน้าเว็บไปได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับปรุงเรื่องการบีบอัดรูปภาพ การลดขนาดไฟล์ต่างๆ 

  • สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เพราะเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของผู้เยี่ยมชม จะดึงดูดให้พวกเขาใช้เวลาในหน้าเว็บได้นานขึ้น เนื้อหาคอนเทนต์จึงควรเป็นประโยชน์หรืออ่านเข้าใจง่าย 

  • ปรับปรุงการออกแบบหน้าเว็บไซต์ (UX/UI) เพิ่มการออกแบบให้สวยงาม มีปุ่ม Action ที่มองเห็นได้ชัดเจน รวมถึงจัดวางเนื้อหาและรูปภาพต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

  • มี Call to action (CTA) ที่ชัดเจน สามารถกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายกระทำการบางอย่างที่แบรนด์ต้องการได้ เช่น คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม คลิกเพื่อสั่งซื้อสินค้า หรือสมัครรับข้อมูลข่าวสาร

  • ทำเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งานทุกหน้าจอ โดยเฉพาะสมาร์ตโฟน ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่นิยมเข้าชมเว็บไซต์หรือเลือกชมสิ่งที่ตนสนใจผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว 

  • ลดปริมาณโฆษณาหรือพ็อปอัปที่รบกวน เนื่องจากสิ่งก่อกวนเหล่านี้ สามารถลดทอนความสนใจของผู้ใช้ แบรนด์จึงควรใช้โฆษณาในสัดส่วนที่จำเป็น ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป 

  • อย่าลืมวิเคราะห์ข้อมูลหรือพฤติกรรมผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Analytics ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์สามารถทำเว็บไซต์หรือโฆษณาเว็บไซต์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น 


ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจต้องหันมาทำเว็บไซต์เป็นของตนเอง
ปรับปรุงค่า Bounce Rate ให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มยอดขายได้ตามเป้าหมาย 
พร้อมเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดได้แบบไม่เห็นฝุ่น 

Nipa Agency พร้อมรับทำเว็บไซต์ E-commerce ให้กับธุรกิจของคุณ เพราะเรามีทีมการตลาดออนไลน์มืออาชีพที่พร้อมซัปพอร์ตกธุรกิจออนไลน์ มั่นใจได้ในคุณภาพ!


ส่วนลดพิเศษ คลิกเลย👇


บทความที่เกี่ยวข้อง
Website
เว็บไซต์ที่ดีต้องดูยังไง?

Website
4 เหตุผลทำไมร้านค้าออนไลน์ ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

Website
มือใหม่ควรรู้! 10 เว็บไซต์จับคู่สี ใช้ออกแบบเว็บไซต์ได้งานสวยปัง

Website
วิธีทำเว็บไซต์ E commerce ให้ยอดขายพุ่งไวติดจรวด

View all

รับคำปรึกษาฟรี!
บริการที่น่าสนใจ
บริการของคุณ