เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง….จุดที่เราจับมือถือ… มากกว่าจับเม้าส์!!!

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะ Generation ไหนก็เริ่มมีการปรับตัวมาใช้โทรศัพท์มือถือหรือ Mobile Phone ซึ่งทุกวันนี้มันก็คือ Smartphone เสียส่วนใหญ่ จากพฤติกรรมการใช้งานของคนทั่วไปมักจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันว่าในหนึ่งวันมีการใช้ Smartphone เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตประจำวัน มากกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะใช้ประโยชน์ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ หรือ ที่ฮิตที่สุดคือการใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Line, Instagram, Twitter, We Chat เป็นต้น

ลองคิดดูง่ายๆได้เลยว่า ในหนึ่งวันคุณตื่นนอนมาสิ่งแรกที่คุณจับต้องคือโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์?? ….โทรศัพท์มือถือ… ถูกต้องไหม? เพราะอย่างน้อยๆคุณก็ต้องใช้บริการนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์นั่นเอง เวลาคุณอ่านข่าว เช็ค Email แชทกับเพื่อน คุยงาน เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังวิทยุ ฟังข่าว คุณก็ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ถูกต้องไหม? คุณจะยอมเสียเวลาอันมีค่าในช่วงเช้ามานั่งเปิด คอมพิวเตอร์? แน่นอน!! ทุกวันนี้ไม่มีใครทำแบบนั้นแล้ว มันเสียเวลา!!! ทุกคนต่างใช้ชีวิตแบบเร่งรีบกันทั้งนั้น ก็มีแต่เจ้า Smartphone นี่แหละ ที่สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้คนยุคใหม่ได้ สังเกตได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็มีแต่คนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ของตัวเอง ทั้งบนรถเมล์ รถไฟฟ้า รถยนต์ เรือโดยสาร หรือแม้แต่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ ก็ยังใช้ Smartphone เรียกว่า วันๆไม่ต้องทำอะไร นั่งจิ้มแต่หน้าจอเล็กๆนั่นแหละ ทำให้อัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มที่สูงกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์

เมื่อรู้ว่าคนในสังคมหันมาใช้งาน Smartphone มากขึ้นก็คงไม่พลาดที่นักการตลาดออนไลน์ที่จะเล็งเห็นและหันมาตีตลาดการโฆษณาผ่านช่องทางนี้หรือเรียกว่า Mobile Marketing จากการสำรวจของ AC Nielsen พบว่าผู้บริโภคคนไทยปีนี้ ใช้เวลาอยู่กับโทรศัพท์มือถือมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับ การใช้งานแอพพลิเคชั่น รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆดังที่กล่าวมา

และแน่นอนว่า เมื่อมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรือ Smartphone มากขึ้นก็ย่อมมีการแข่งขันด้านการโฆษณากันมากขึ้น โดยในปี 2015 นั้น ทาง Gather คาดการณ์ไว้ว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะเป็นภูมิภาคทีมีการใช้งบโฆษณาสูงที่สุด !! และเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 4 เท่าจากปัจจุบัน ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีการโฆษณาผ่านทางโทรศัพท์มือถืออยู่หลายรูปแบบ ทั้งแบบ SMS, LINE, Banner AD, Search & Call AD, in APP AD เป็นต้นโดย สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง สามารถวัดผลประเมินผลได้รวดเร็ว การลงทุนต่ำ ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายสูงมาก

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจกันแล้วว่า เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงจุดที่เราจับ Mobile มากกว่าจับ Mouse!!! แม้ว่าคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์มือถือหรือ Smartphone จะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆที่ต้องการได้เหมือนกัน แต่เจ้าโทรศัพท์มือถือหรือ Smartphone มีการใช้งานที่ง่าย พกพาสะดวกและคล่องตัวกว่า ใครต่อใครจึงเลือกที่่จะใช้งานมากกว่านั่นเอง และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกมากในอนาคตอันไกล้นี้

“ธุรกิจยุคใหม่ ไม่รู้จัก การตลาดออนไลน์ ( Online Marketing) ไม่ได้แล้ว”