02-639-7878 ต่อ 990

เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.

ปิดหน้าต่างนี้
โฆษณาบน LINE
โฆษณาบน Facebook
โฆษณาบน Instagram
โฆษณาบน Google
โฆษณาบน YouTube
โฆษณาบน Twitter
โฆษณาบน TikTok
รับออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจ
SEO ( Search Engine Optimization )
Content Marketing
การตลาดบน E-mail และ SMS
รับจ้างรีวิวสินค้า และบริการ
รับทำวิดีโอโฆษณา
โฆษณาบน Facebook Ads
บริการ ChatBot
ยืนยัน
Nipa Digital Marketing Add Line Nipa Digital Marketing Messenger
Digital Marketing

สูตรลับจาก Disney วางสตอรี่ให้น่าติดตาม ทำคอนเทนต์ให้สนุก ด้วย 3 Act Structure

หน้าหลัก
บทความ
Digital Marketing
สูตรลับจาก Disney วางสตอรี่ให้น่าติดตาม ทำคอนเทนต์ให้สนุก ด้วย 3 Act Structure
สูตรลับจาก Disney วางสตอรี่ให้น่าติดตาม ทำคอนเทนต์ให้สนุก ด้วย 3 Act Structure

ทำคอนเทนต์


บ่อยครั้งที่การบอกเล่าเรื่องราวหรือการวาง Storytelling ต่าง ๆ ของแบรนด์ ช่วยให้แบรนด์เข้าไป Touch ใจคนจนเกิดเป็นการหันมาซื้อสินค้าหรือบริการของเรามากขึ้น เนื่องจากการทำ Storytelling ดี ๆ จะช่วยให้ผู้ที่พบเห็น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าของเราอยู่แล้วอินตามเรื่องราวที่เราถ่ายทอดออกไปได้ง่ายขึ้น และอาจก่อให้เกิด Brand Loyalty ในที่สุด


แล้ว Storytelling คืออะไร สำคัญอย่างไรกับแบรนด์และการทำคอนเทนต์

Storytelling คือการเล่าเรื่องราวหรือข้อมูลต่างๆ ผ่านโครงเรื่อง ตัวละคร และเหตุการณ์ต่างๆ แต่ละรูปแบบ เพื่อสื่อสารข้อความหรือแนวคิดให้ผู้รับสารเข้าใจและเชื่อมต่อกับเรื่องราวนั้นได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยในการดึงดูดความสนใจ สร้างความเข้าใจต่อผู้ฟังหรือผู้ชมได้

ซึ่งกลยุทธ์ Storytelling นี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้ง่ายขึ้นและลึกมากขึ้น ส่งผลให้ข้อความหรือสารที่ต้องการจะสื่อไปถึงได้อย่างถูกต้อง สามารถวางแผนการทำโฆษณาได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้บรรลุ Objective ที่ตั้งใจไว้ได้ง่าย ซึ่งการทำคอนเทนต์แบบ Storytelling นั้น สามารถนำเสนอได้ทุกรูปแบบ ทั้งแบบข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ

มาพูดถึง Walt Disney ค่ายหนังและแอนิเมชันยักษ์ใหญ่ระดับโลกกันบ้างดีกว่า โดย Disney มีการใช้การวาง Storytelling ให้น่าสนใจเช่นกัน โดยสิ่งที่ Disney หยิบมาใช้ในการทำคอนเทนต์เล่าเรื่องต่างๆ ให้ทรงพลังมากขึ้น นั่นก็คือการหยิบเอา 3 Act Structure มาใช้นั่นเอง


3 Act Structure คืออะไร? ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

3 Act Structure เป็นโครงสร้างการเล่าเรื่องที่แบ่งเรื่องราวออกเป็นสามส่วนหลักๆ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการภาพยนตร์ ละคร และวรรณกรรม โครงสร้างนี้ช่วยให้เรื่องราวมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตลอดเรื่อง โดยจะประกอบไปด้วย

บทเริ่ม (Act 1: Setup) ประกอบด้วย

  • การแนะนำตัวละครและสภาพแวดล้อมของเรื่อง เช่น สถานที่ และสถานการณ์เริ่มต้นของเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้จักและเข้าใจพื้นฐานของเรื่อง
  • เหตุการณ์กระตุ้นที่ทำให้เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น และกระตุ้นให้ตัวละครหลักต้องทำการตัดสินใจหรือเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ
  • จุดเปลี่ยนที่ 1 ที่ทำให้ตัวละครหลักต้องเริ่มการเดินทางหรือการผจญภัย และทำให้เรื่องราวเข้าสู่ส่วนที่สอง


บทพีค (Act 2: Confrontation) ประกอบด้วย

  • การพัฒนาเรื่องราว โดยตัวละครหลักต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรื่องราวมีความตื่นเต้นและน่าติดตาม
  • จุดกลางเรื่อง เป็นจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเรื่องราว มักเป็นจุดที่ทำให้ตัวละครหลักต้องเผชิญกับความจริงใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์
  • จุดเปลี่ยนที่ 2 เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรื่องราวเข้าสู่การคลี่คลาย เป็นช่วงที่ตัวละครหลักต้องตัดสินใจหรือเผชิญกับความท้าทายสุดท้าย


บทจบ (Act 3: Resolution) ประกอบด้วย

  • จุดสุดยอด เป็นช่วงที่ตัวละครหลักต้องเผชิญกับความท้าทายหรือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องราว เป็นจุดที่มีความตื่นเต้นสูงสุดและเป็นการตัดสินชะตาของตัวละคร
  • การคลี่คลาย หลังจากจุดสุดยอด เรื่องราวจะเริ่มคลี่คลาย ตัวละครจะเริ่มแก้ไขปัญหาและปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่
  • การสรุปเรื่อง เป็นส่วนสุดท้ายของเรื่องราวที่สรุปเหตุการณ์และแสดงผลลัพธ์ของการเดินทางของตัวละคร


ชวนดูการทำ 3 Act Structure ในแบบฉบับของ Disney

วันนี้เราจะขอยกตัวอย่างการใช้ 3 Act Structure การเล่าเรื่องที่สนุกและน่าติดตามในแบบฉบับของ Disney ซึ่งไม่ว่าใครก็ทราบฝีไม้ลายมือของค่ายนี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยเราจะขอยกตัวอย่างจากเรื่อง Toy story ให้ได้ดูกัน

สำหรับเรื่องนี้ บทเริ่มจะเป็นการเล่าเรื่องราวของ Woody ผู้นำในหมู่ของเล่นของ Andy และได้ถ่ายทอดเรื่องราวมาเรื่อยๆ จนมาถึงงานวันเกิดของ Andy ที่เขาได้รับ Buzz Lightyear เป็นของขวัญวันเกิด จนทำให้ Woody อิจฉา และส่งต่อเรื่องราวไปยังบทพีค

ต่อมา เรื่องเข้าสู่บทพีคด้วยการที่ Woody พยายามจะกำจัด Buzz อยู่เรื่อยๆ จนมาถึงตอนที่แม่ของ Andy กำลังพาเด็กๆ ไปที่ร้านพิซซ่าและหยุดแวะที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งตอนนั้น Woody กับ Buzz ก็ถูกแยกให้อยู่กันเพียง 2 คน เกิดเป็นจุดพัฒนาเรื่องราว ที่ทั้งคู่พยายามตามไปที่ร้านพิซซ่า จนมาถึงจุดกลางเรื่อง ที่พวกเขาได้พบกับเด็กที่ชื่อ Syd และถูกนำกลับบ้าน

เนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่บทจบด้วยการที่ Syd ทรมาน Woody เป็นอย่างมาก ในขณะที่ Buzz ก็เห็นโฆษณา Buzz ตัวอื่นๆ ทำให้เขาได้รับรู้ว่าตนเองไม่ได้มีพลังวิเศษใดๆ เขาได้พยายามบินหนี แต่ก็ตกลงมาแขนหัก แต่เขาทั้งสองก็ต้องพยายามรีบกลับไปให้ได้ ดังนั้นทั้งสองคน อย่าง Woody ที่เก่าแล้ว และ Buzz ที่ไม่ใช่ตำรวจอวกาศสุดเท่อีกต่อไป ต้องช่วยกันรีบกลับไปหา Andy เพราะเป็นวันที่ Andy กำลังจะย้ายบ้าน ซึ่งเป็นจุดสุดยอดหนึ่งที่ดึงผู้ชมไปสู่บทจบและไล่เรียงเรื่องราวไปจนถึงการสรุปเรื่อง


การนำ 3 Act Structure มาใช้งานในการทำคอนเทนต์และการทำการตลาด

3 Act Structure สามารถนำมาใช้ในด้านการตลาดได้โดยการนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์ ให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจแบรนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถนำมาใช้ในการทำคอนเทนต์ขาย ผ่านวิดีโอโฆษณาสินค้า หรือการทำโฆษณา Youtube เป็นต้น โดยมีการนำมาใช้งานดังนี้


  • บทเริ่ม : เป็นการแนะนำปัญหาต่างๆ ที่กลุ่มเป้าหมายอาจจะทราบอยู่แล้วหรือยังไม่ทราบ เพื่อดึงให้เข้ามาอยู่ในความสนใจ และติดตามดูคอนเทนต์ของเราต่อ
  • บทพีค: เป็นการแนะนำการแก้ปัญหา โดยการใช้สินค้าหรือบริการของทางแบรนด์นั่นเอง โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหา พร้อมทั้งนำไปสู่บทจบซึ่งก็คือการทำให้ลูกค้าได้สินค้าที่เรานำเสนอนั่นเอง
  • บทจบ: คือการทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อมาที่แบรนด์ได้ หรือเราติดต่อลูกค้าไปได้ เพื่อนำมาสู่การขายในที่สุด


จะเห็นได้ว่า 3 Act Structure เป็นอีกโครงสร้างหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถทำคอนเทนต์รูปแบบต่างๆ ได้น่าสนใจและน่าติดตามได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์แบบรูปภาพ หรือการทำวิดีโอโฆษณาสินค้า ทำโฆษณา Youtube หรือแม้กระทั่ง TikTok ซึ่งการเล่าเรื่องที่ดีก็จะช่วยให้แบรนด์ของเราสามารถเข้าไปนั่งในใจคนได้อย่างแน่นอน

หรือหากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยทางการตลาดที่สามารถทำคอนเทนต์ออกมาให้น่าติดตาม Nipa Agency มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะเนรมิตคอนเทนต์เพื่อช่วยมัดใจกลุ่มเป้าหมายของคุณให้อยู่หมัด หากสนใจติดต่อเราได้เลย


ส่วนลดพิเศษ คลิกเลย👇


บทความที่เกี่ยวข้อง
Digital Marketing
ตามติดอารมณ์ความรู้สึกลูกค้าที่มีต่อธุรกิจ ด้วย Sentiment Analysis Tool

Digital Marketing
ทำการตลาดให้ตลก ตกหัวใจลูกค้าด้วย Humour Marketing

Digital Marketing
Influencer Marketing ทางเลือกใหม่ของการทำการตลาดออนไลน์

Digital Marketing
Now To Next : ภาพรวม Trend การตลาด 2022 และ ทำนาย Trend การตลาด 2023

View all

รับคำปรึกษาฟรี!
บริการที่น่าสนใจ
บริการของคุณ