02-639-7878 ต่อ 990

เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.

ปิดหน้าต่างนี้
โฆษณาบน LINE
โฆษณาบน Facebook
โฆษณาบน Instagram
โฆษณาบน Google
โฆษณาบน YouTube
โฆษณาบน Twitter
โฆษณาบน TikTok
รับออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจ
SEO ( Search Engine Optimization )
Content Marketing
การตลาดบน E-mail และ SMS
รับจ้างรีวิวสินค้า และบริการ
รับทำวิดีโอโฆษณา
โฆษณาบน Facebook Ads
บริการ ChatBot
ยืนยัน
Nipa Digital Marketing Add Line Nipa Digital Marketing Messenger
Digital Marketing

3 เรื่องน่ารู้ ก่อน ลงโฆษณา ออนไลน์

หน้าหลัก
บทความ
Digital Marketing
3 เรื่องน่ารู้ ก่อน ลงโฆษณา ออนไลน์
3 เรื่องน่ารู้ ก่อน ลงโฆษณา ออนไลน์

สำหรับนักธุรกิจที่สนใจจะ ลงโฆษณา ผ่านสื่อออนไลน์นั้น จำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและเลือกใช้โฆษณาได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การโฆษณาประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ โดยเราสามารถสรุปข้อมูลออกเป็นหัวข้อหลักๆ ได้ 3 ประการ ดังต่อไปนี้

Nipa Digital Marketing Image Content
  1. รูปแบบการ ลงโฆษณา
  • Cost Per Click (CPC)
    Cost Per Click หรือ Pay Per Click เป็นวิธีการ ลงโฆษณา เพื่อประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ที่จะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิกลิงก์หรือแบนเนอร์โฆษณาที่เรานำไปวางไว้ ตัวอย่างโฆษณาที่มีลักษณะเป็น CPC คือ โฆษณา Google AdWords
    นอกจากโฆษณา CPC แล้วยังมีรูปแบบที่มีลักษณะคล้ายกันแต่แตกต่างกันที่การทำงานของแต่ละช่องทางที่เผยแพร่โฆษณา อย่าง Cost Per Like (CPL) ของ Facebook และ Cost Per View (CPV) ของ YouTube
  • Cost Per Action (CPA)
    การ ลงโฆษณา Cost Per Action นั้น เราจะเสียเงินเมื่อเกิดการมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ
    การกรอกข้อมูล หรือการให้ Email โฆษณา CPA เหมาะกับการโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง กล่าวคือโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทเดียวกันทั้งหมด
  • Cost Per Mille (CPM)
    สำหรับการลงโฆษณาแบบ CPM ส่วนใหญ่มักจะใช้กับโฆษณาแบบ Display โดยจะคิดเงินเมื่อมีการเข้าชม โฆษณาครบ 1000 ครั้ง ถือเป็นรูปแบบโฆษณาที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากและยังเป็นการจ่ายที่รู้ผลหรือยอดวิวอย่างชัดเจน ส่งผลให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

 

  1. ทางเลือกในการลงโฆษณา
  • Google
    เราสามารถลงโฆษณาในรูปแบบของ Google AdWords หรือ Google Displays ก็ได้ วิธีทำงานของการโฆษณาผ่าน Google จะใช้ Keyword เป็นคำค้นหาโฆษณาและใช้กระบวนการ SEO ที่จะทำให้เว็บไซต์ปรากฏในตำแหน่งที่ดีที่สุดจากผลการค้นหาผ่าน Google
  • Facebook
    รูปแบบโฆษณาจะมีลักษณะเหมือน Display Ads โดยเราสามารถเลือกวัตถุประสงค์ในการโฆษณาได้ อย่างเช่นการโปรโมทโพสต์ การโปรโมทเพจ หรือการโปรโมทเว็บไซต์ ทาง Facebook จะมีเกณฑ์การให้คะแนนคุณภาพและกระบวนการตรวจสอบก่อนการลงโฆษณา ผู้ใช้จึงต้องทำตามนโยบายการโฆษณาเพื่อให้ได้รับการอนุมัติ

 

  1.  เทคนิคในการลงโฆษณา
  • Retargeting หรือ Remarketing
    Retargeting เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของเราซ้ำๆ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม ด้วยวิธีการฝัง Cookie เพื่อติดตามการเข้าเว็บไซต์และสำรวจรูปแบบของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เราสนใจ จากนั้นจึงนำข้อมูลไปประมวลผลและเลือกโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้
    ประโยชน์ของการใช้วิธี Retargeting คือเข้าถึงเป้าหมายได้ตรงกลุ่มและเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) ให้สูงขึ้น รวมถึงสามารถควบคุมการกำหนดต้นทุนของโฆษณาได้อีกด้วย
  • Content Marketing
    การเน้นความสำคัญที่เนื้อหาโฆษณาเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในยุคนี้ เพราะมันช่วยให้ผู้คนรู้จักและจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการโฆษณาแบบไม่ยัดเยียด ไม่เน้นขาย ทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่รู้สึกรำคาญหรือมีทัศนคติที่ไม่ดีกับแบรนด์
    การลงโฆษณาที่เนื้อหามีคุณภาพและมีคุณค่า ช่วยเพิ่มผลการค้นหาของโฆษณา รวมถึงเพิ่มโอกาสการคลิก การแบ่งปัน (Share) และการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย


“ถูกที่ถูกทาง…ทำโฆษณาให้เหมาะกับ Social Media ที่คุณเลือกใช้”


ส่วนลดพิเศษ คลิกเลย👇


บทความที่เกี่ยวข้อง
Digital Marketing
โฆษณาออนไลน์แบบไหนที่เหมาะกับการโฆษณาสินค้าของคุณมากที่สุด?

Digital Marketing
สรุป 5 เทรนด์ Brand Strategy กลยุทธ์สร้างแบรนด์ยังไงให้เข้าใจลูกค้า

Digital Marketing
7 เทรนด์การตลาดออนไลน์ปี 2023 สำหรับคนทำธุรกิจ

Digital Marketing
ลืมไปเลยว่ามาจากจีน! วิเคราะห์แผนการตลาดออนไลน์แบรนด์ Xiaomi

View all

รับคำปรึกษาฟรี!
บริการที่น่าสนใจ
บริการของคุณ