เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
ในการทำการตลาดออนไลน์ ตัวจัดการโฆษณานั้น เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำการตลาดทุกๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือใดๆ ก็ตาม ซึ่งสามารถทำให้เราสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้แบบละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องการ Promote Post ใดๆ ถ้าหากเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ถูก จะทำให้ Post ของเรานั้น มีประสิทธิภาพอย่างมาก แต่ว่าเราจะรู้กันได้อย่างไร ว่าเราเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงดีแล้ว?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำโฆษณาผ่าน Facebook ที่สามารถเลือกเป้าหมายได้แคบสุดๆ อย่างที่ไม่เคยนึกถึง เราได้รวบรวม 8 คำถาม ที่ผู้ทำโฆษณาควรทราบก่อน Promote Post ใดๆ ซึ่งถ้าหากตอบคำถามทั้ง 8 นี้ได้ ก็ทำให้เราไม่ต้องโยนหินถามทางแบบกว้างๆ แต่สามารถเลือกเป้าหมายได้ตรงกับเป้าหมายของเรามากที่สุด
ในการ Promote Post อันดับแรกที่เราควรคำนึงถึงเลยคือ สถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายอาศัยอยู่ คุณคิดว่าว่าที่ลูกค้าของคุณจะอยู่ที่ไหน? การที่เราสามารถเลือกเจาะสถานที่รวมถึงขอบเขตบริเวณที่อยู่อาศัยได้อย่างถูกต้อง เป็นปัจจัยที่สำคัญ และส่งผลต่อยอดขายของเราได้อย่างมาก
ถ้าหากคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับ E-Commerce การเลือกคนในท้องที่เดียวกับคุณ ก็ยังให้ผลดีอยู่ แต่นอกเหนือจากพื้นที่อาศัยของคุณแล้ว ให้เราลองจินตนาการถึง สถานที่ของผู้คนที่จะซื้อสินค้าของคุณ มักอาศัยอยู่กันด้วย ให้ลองตรวจสอบจากบันทึกการขายที่ผ่านมา หลายๆ ครั้งที่มีการซื้อ มาจากเมืองเดียวกับคุณหรือไม่ หรือส่วนใหญ่ที่ซื้ออาศัยอยู่ต่างท้องที่กับคุณ? เมื่อเราทำการ Live ผ่านเพจ คนที่เข้ามาดูส่วนใหญ่อาศัยกันอยู่ที่ไหน เป็นต้น ถ้าหากเราสามารถหาข้อมูลส่วนนี้ได้ ก็จะทำให้การ Promote Post ของเรามีประสิทธิภาพอย่างมาก
หลังจากสามารถหาคำตอบได้แล้วว่า กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ไหน สถานีต่อไปก็คือ คิดว่าพวกเขามีอายุเท่าไหร่? คุณอาจจะทราบดีเกี่ยวกับอายุโดยเฉลี่ยของลูกค้า หรือว่าที่ลูกค้าคุณอยู่แล้ว แต่ถ้าหากยังไม่ทราบ ให้เราเข้าไปที่ Facebook Insights ซึ่งจะมีรายละเอียดบอกให้เราทราบ และตรงส่วนนี้ก็เป็นข้อมูลที่ช่วยได้มากทีเดียว
เครื่องมือ Ads Manager จะช่วยให้เราเลือกกลุ่มเป้าหมายได้แบบเจาะจงและละเอียดสุดๆ ได้ อย่างเช่น ถ้าหากเราต้อง Promote Post ขายสินค้าที่เฉพาะกลุ่มมากๆ อย่างเสื้อที่สกรีนคำว่า “I’m already 18” ซึ่งในกรณีนี้ ก็ให้เราเลือกช่วงอายุเป็น 18 ปี เป็นต้น อย่างไรก็ตามบางธุรกิจก็อาจไม่ต้องสนใจเรื่องอายุมาก อย่างเช่น การทำอาหาร ก็เป็นไปได้ว่าคนทุกช่วงอายุจะชอบหมด ฉะนั้น สำหรับธุรกิจแบบนี้เราก็อาจจะละการเจาะจงอายุไว้ แล้วก็ไปโฟกัสกันที่ปัจจัยอื่นจะดีกว่า
ต่อมาให้ลองคิดว่า ลูกค้าของคุณส่วนใหญ่เป็นเพศอะไร เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หรืออาจจะทั้งคู่? คุณสามารถกำหนดเพศของกลุ่มเป้าหมายได้ผ่าน Ads Manager ถึงแม้จะเป็นคำถามที่ดูเหมือนง่ายๆ แต่ความจริงอาจไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายของแคมเปญนั้นคืออะไร ให้เราวิเคราะห์ให้มั่นใจว่า ผู้ซื้อคือใครกันแน่? เป็นคนที่ใช้สินค้าตัวนั้นเอง หรือเป็นคนที่ต้องการซื้อไปเป็นของขวัญต่ออีกทีหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้ ถึงแม้จะเป็นสินค้าของผู้ชาย แต่ผู้ซื้ออาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ เป็นต้น
ถ้าหากคุณดูในแถบ Facebook Insights อาจจะตกใจว่าทำไมผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาดู Post ของเรา มีผู้ใช้ภาษาอื่นอยู่มากมายขนาดนั้น ถ้าเกิดเป็นแบบนี้จริงๆ ในการโปรโมท Post ครั้งใหม่ที่จะมาถึง ให้คุณลองคิดดูว่า คุณต้องการให้โฆษณานี้ไปปรากฏให้กับผู้ที่ใช้ต่างภาษาจริงๆ หรือไม่
ถ้าหากคุณต้องการเจาะเป้าหมายไปยังภาษาอื่นๆ ให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่า ตัวอักษรในภาพ หรือวิดีโอที่คุณจะทำการโปรโมท Post นั้น ตรงกับภาษาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้จริงๆ รวมถึงถ้าหากคุณลิงก์โฆษณาไปยังหน้าเว็บไซต์ใด เพื่อให้ผู้เห็นโฆษณาเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม ก็ต้องอย่าลืมใช้ภาษาให้ตรงกับผู้รับด้วย
หลังจากตอบคำถามข้อข้างบนๆ ได้แล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาตอบคำถามที่ลึกซึ้งมากขึ้น เกี่ยวกับรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายของคุณ ใน Facebook Ads Manager เราจะเห็นคำว่า ‘Demographics’ ใต้คำว่า ‘Detailed Targeting’ ซึ่งตรงส่วนนั้นเราสามารถแยกย่อยได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่การศึกษา ไปจนถึงด้านการเงินต่างๆ อย่างเช่น รายได้ บ้านที่พักอาศัย วันเกิดเมื่อไหร่ แต่งงานเมื่อไหร่ สถานะครอบครัรวเป็นอย่างไร ทำงานเกี่ยวกับอะไร เป็นต้น
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่า เครื่องมือจัดการโฆษณาของ Facebook เปิดโอกาสให้เหล่าผู้โฆษณาแยกย่อยกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียดยิบ เพียงแต่เราควรพึงนึกถึงเสมอว่า ยิ่งเราเจาะกลุ่มเป้าหมายละเอียดยิบเป็นกลุ่มเล็กมากเท่าไหร่ Reach ของการโปรโมท Post ของเรา ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ดังนัน ในการปรับแต่งกลุ่มเป้าหมาย ควรจะดูตัวเลขในแถบ Estimated Daily Results ให้ดีๆ การเจาะกลุ่มแบบละเอียดได้ ทำให้เลือกเป้าหมายที่ต้องการได้เจาะจงมากขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ควรเจาะจงมากจน สามารถเข้าถึงคนได้เพียงนิดเดียว
ใต้ข้อ ‘Detailed Targeting’ นอกจากจะสามารถเลือก ‘Demographics’ ได้แล้ว คุณยังสามารถระบุ ‘Interests’ ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถเจาะจงบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือสินค้าของคุณได้อีกด้วย อย่างเช่น ถ้าหากคุณกำลังมองหาเป้าหมายที่เป็นเกมเมอร์ หรือคนที่ชื่นชอบแฟชั่น หรือชอบกีฬา เราก็ไม่จำเป็นต้องโปรโมท Post แบบกว้างๆ อีกต่อไป เพียงแค่เลือก Interests ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ เรายังสามารถเลือก ‘Behaviors’ ซึ่งเป็นการระบุพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม เช่น พฤติกรรมการจ่ายเงิน เป็นผู้ใช้เครดิตการ์ดหรือไม่ ได้มีการใช้จ่ายออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยแค่ไหน หรือแม้แต่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ได้มากขึ้น
ในข้อนี้ค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากว่าจะส่งผลต่อการมองเห็นโฆษณาของเรา ถ้าเราสังเกตในการตั้งค่าโฆษณาของ Facebook Ads Manager ในส่วนของ ‘Placements’ เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้โฆษณาปรากฏที่ไหน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้วที่ต้องตอบคำถามว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เวลาออนไลน์ที่ไหน ที่ Facebook ? หรือว่า Instagram? แล้วคุณคิดว่าพวกเขาออนไลน์ผ่านมือถือ หรือว่าคอมพิวเตอร์? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณต้องการขายอะไรสักอย่าง สำหรับผู้ที่ใช้ IOS หรือ Andriod เราก็อาจเลือกเป็น ‘Specific Mobile Devices & Operating Systems’ ได้เลย
นอกจากนี้ การที่เราสามารถตอบคำถามข้อนี้ได้ ก็จะทำให้เราสามารถดีไซน์ภาพหรือวิดีโอโฆษณาให้เหมาะกับผู้พบเห็นได้ อย่างเช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนดคือ ผู้ใช้มือถือ เราก็ต้องทำตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นไปอีก เพื่อที่ว่าจะได้สามารถอ่านบนหน้าจอเล็กๆ ได้อย่างสะดวกนั่นเอง
ท้ายที่สุดนี้ อยากให้คุณลองคิดว่า การโปรโมท Post ที่คุณต้องการนั้น คุณต้องการให้เข้าถึงใครบ้าง คุณกำลังมองหาลูกค้าใหม่ๆ หรือต้องการเจาะลูกค้าเก่าด้วยการยิงโฆษณาในครั้งนี้ ซึ่งวิธีการเลือกก็ง่ายมากๆ เพียงไปที่ส่วน ‘Connections’ จากนั้นเลือก ‘Add a connection type’ แล้วก็เลือก ‘Facebook Pages’ ซึ่งในส่วนนี้แหละ เป็นตัวกำหนดว่าเป็นลูกค้าเก่าหรือใหม่
ถ้าหากคุณต้องการให้ลูกค้าเก่าของคุณเห็นโฆษณานี้ด้วย ก็เลือกคำว่า ‘People who like your page’ หรือถ้าคุณต้องการเจาะไปที่ลูกค้าใหม่อย่างเดียว ก็ให้เลือกเป็น ‘Exclude people who like your Page ’ แทนได้เลย
การเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้องตามที่เราต้องการ นอกจากจะช่วยให้การโปรโมท Post ได้ผลแล้ว ก็ยังทำให้เราบริหารเงินสำหรับโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดด้วย ยิ่งเราเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ดีเท่าไหร่ ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากเท่านั้น ใครที่ต้องการทำโฆษณาผ่าน Facebook แล้วยังไม่รู้ว่าควรเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ลองถามคำถามตัวเองด้วย 8 ข้อนี้ดูนะคะ