เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
ทุกวันนี้ การสร้างแคมเปญทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายออนไลน์ สามารถทำได้นับร้อยนับพันวิธี แต่มีวิธีการหนึ่งที่ผสมผสานจุดแข็งของทั้ง Facebook เข้ากับแคมเปญการตลาดบน E-Commerce ได้อย่างลงตัว วิธีการนี้ก็คือ การทำ Facebook Ads ในรูปแบบ "CPAS" หรือชื่อที่หลายคนรู้จักกันดีว่า Collaborative Ads นั่นเอง
แล้วการทำ Facebook Ads ในรูปแบบ CPAS คืออะไร มีประโยชน์ต่อแบรนด์อย่างไร เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง ในบทความนี้ Nipa Agency จะรวบรวมประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำ Facebook Ads ในรูปแบบ CPAS เพื่อให้แบรนด์มีความเข้าใจใน CPAS มากขึ้น และสามารถทำแคมเปญการตลาดได้อย่างตรงจุด!
CPAS เป็นวิธีการโฆษณาที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Facebook และแพลตฟอร์ม E-Commerce โดยที่เจ้าของแบรนด์จะสร้างแคมเปญโฆษณาสินค้าไว้ใน E-Commerce Marketplace แล้วให้โฆษณาสินค้ามาแสดงอยู่ในหน้าฟีด Facebook เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าหรือบริการต่อไป
ทั้งนี้ การแสดงผลของโฆษณาสินค้าที่ได้ทำ CPAS จะอยู่ในรูปแบบของ Dynamic Ads หรือหมายถึงว่า การแสดงโฆษณาที่หน้าฟีดจะเปลี่ยนไปตามความสนใจหรือพฤติกรรมการเลือกชมสินค้าของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มที่ได้กำหนดไว้
หลักการทำงานของ CPAS คือ บนแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Facebook เช่น Shopee, Lazada หรือ JD Central จะมีแค็ตตาล็อกสินค้าที่จัดสินค้าต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ โดยแบรนด์สามารถดึงแค็ตตาล็อกนี้มาใช้โพรโมตสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในหน้าฟีด Facebook ได้
ข้อดีของการทำ Facebook Ads แบบ CPAS คือ แบรนด์สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตามต้องการ เช่น คนที่เคยกดดูสินค้าแต่ยังไม่สั่งซื้อ คนที่กดสินค้าเข้าตะกร้า หรือคนที่เคยซื้อสินค้าไปแล้ว ไปจนถึงคนทั่วๆ ไป อีกทั้งผู้ที่เห็นโฆษณาบน Facebook ก็สามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้เลย โดยที่ไม่ต้องออกจากหน้า Facebook แต่อย่างใด ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ซื้อได้อย่างมาก
เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เพราะการโฆษณาด้วย Facebook Ads ทำให้ผู้คนพบเห็นสินค้าของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น นำไปสู่การซื้อสินค้าที่กำลังเล็งไว้ได้ทันที
ทำ Remarketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการทำ Facebook Ads แบบ CPAS จะเป็นการเสนอขายสินค้าให้คนที่ "เกือบ" ตัดสินใจซื้อ และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น
เพิ่มการจดจำสินค้าหรือการรับรู้ของแบรนด์ เนื่องจาก Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่มีคนไทยใช้บริการมากที่สุดในปัจจุบัน และการทำ CPAS อาจทำให้ผู้ใช้ Facebook บางคน เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าตัวจริงของแบรนด์ได้ในอนาคต
ช่วยวัด Performance ของการทำ Facebook Ads รวมถึงช่วยให้เก็บค่า ROAS (Return on Ads Spend) ได้สะดวกและแม่นยำ
แน่นอนว่าการทำ CPAS เหมาะกับแบรนด์ที่เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Facebook ทั้งยังเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรู้จักสินค้าหรือเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะทำ Facebook Ads ในรูปแบบ CPAS ได้นั้น แบรนด์ต้องผ่านการประเมินความน่าเชื่อถือจาก Facebook เสียก่อน
การยิง Facebook Ads ด้วยรูปแบบ CPAS ถือเป็นแคมเปญทางการตลาดที่ธุรกิจไม่ควรพลาด
แต่การทำ CPAS ก็อาจมีความยุ่งยากสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่หรือแบรนด์ที่ไม่เคยทำมาก่อน
ลองให้ Nipa Agency ช่วยเหลือคุณดีกว่า! เพราะเรามีทีมการตลาดออนไลน์มืออาชีพที่ยินดีซัปพอร์ตธุรกิจคุณ พร้อมให้บริการด้วยเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่ทันสมัย เพื่อยกระดับการตลาดบนโลกออนไลน์และกระตุ้นยอดขายของแบรนด์คุณให้พุ่งทะยาน ปรึกษาเราได้เลย!