เคล็ดลับเพิ่มยอดขายบน Facebook Marketplace แบบไม่ต้องพึ่งโฆษณา

ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มขายของออนไลน์แน่นอนว่า Facebook Marketplace ต้องติดหนึ่งในตัวเลือกนั้น เพราะถือว่าเป็นแหล่งค้าขายที่คนยุคใหม่เริ่มใช้กันมากขึ้น ปัจจัยหลัก ๆ คือฟรีและเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง แบบที่ไม่ต้องเสียเงินยิงแอดจำนวนมาก

วันนี้ NIPA Agency จะพามาเจาะลึกทุกมุมของทำโฆษณา Facebook Marketplace พร้อมเผยเคล็ดลับอัปยอดขายให้พุ่งแบบที่คู่แข่งก็คาดไม่ถึง!

ทำไม Facebook Marketplace ถึงเป็นขุมทรัพย์ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ?

1. ฟรี! ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง

แพลตฟอร์ม E-Commerce ส่วนใหญ่มักจะมีค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มหรือค่าคอมมิชชันการขาย แต่ว่าบน Facebook Marketplace คุณสามารถโพสต์ขายสินค้าได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่แบบสุด ๆ

2. เข้าถึงลูกค้าได้ทันที

ในปี 2025 ช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดก็ยังคงเป็น Facebook และการที่เลือก Facebook Marketplace เป็นช่องทางการขายสินค้าก็จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายที่เลื่อนฟีด Facebook อยู่ทุกวันเจอสินค้าของคุณได้เลย

3. สร้างความน่าเชื่อถือได้ง่าย

อีกหนึ่งข้อดี คือลูกค้าสามารถกดเข้าไปดูโปรไฟล์ของร้านค้าได้ทันที เห็นรีวิว เห็นโพสต์ และเช็กประวัติการซื้อขายได้ง่าย ๆ ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น!

4. ปิดการขายได้ไว

ใน Facebook Marketplace มีฟีเจอร์แชตอยู่ในตัว นอกจากแค่โพสต์เพื่อเพิ่มการมองเห็นจากลูกค้าแล้ว ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการที่ลูกค้าทักมาสอบถามและตัดสินใจซื้อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปแพลตฟอร์มอื่นเลย

เผย 5 เคล็ดลับให้ขายดีบน Facebook Marketplace

1. ตั้งราคาที่แข่งขันในตลาดได้

ราคาที่สะดุดตา จะช่วยให้ลูกค้าสนใจและกดสั่งซื้อได้ทันที แต่ต้องเป็นราคาที่ไม่สูงเกินไปจนลูกค้าไปหาซื้อที่อื่น และก็ต้องไม่ถูกเกินไปจนขาดทุน ถ้าอยากรู้ว่าราคาสินค้าในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่ ให้เลือกเปรียบเทียบราคาสินค้าในหมวดเดียวกันที่อยู่บน Facebook Marketplace

2. ภาพสินค้าต้องปัง ไม่งั้นก็พัง

ภาพสินค้าที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ จะเพิ่มความน่าสนใจขึ้นไปอย่างมาก ซึ่งภาพที่ใช้บน Facebook Marketplace จะต้องเป็นภาพที่คมชัด ไม่เบลอ หลีกเลี่ยงการใช้ภาพที่มีตัวหนังสือเยอะ ๆ หรือใส่กรอบหนา ๆ เพราะ Facebook อาจลดการมองเห็นได้ และถ้าอยากปิดการขายได้ไวขึ้น ภาพที่ใช้ควรจะเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่าภาพสินค้าโดด ๆ และควรจะต้องเป็นภาพสินค้าจากหลายมุมเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อ

3. เขียนคำบรรยายให้น่าสนใจ

ภาพสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่มคำอธิบายของสินค้าด้วยว่ามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ โดยอาจเป็นประโยคที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย เช่น รองเท้าผ้าใบสุดชิค ใส่สบาย พื้นนุ่มมาก เป็นต้น และอาจใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม เช่น #รองเท้า #รองเท้าผ้าใบ #ส่งต่อรองเท้าผ้าใบ เพื่อให้ลูกค้าค้นหาเจอง่ายขึ้น

4. อัปเดตโพสต์เป็นระยะเพื่อให้คนเห็นซ้ำ ๆ

หมั่นอัปเดตโพสต์ของคุณเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้สึกว่าโพสต์มีความสดใหม่อยู่ตลอด แต่ไม่ควรใช้ภาพหรือข้อความเดิม ๆ อาจจะลองเปลี่ยนรูป หรือปรับคำบรรยายให้แตกต่างจากโพสต์ก่อนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น

5. ตอบกลับไวก็ช่วยปิดการขายได้ทันที

พฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่ชอบการตอบกลับจากร้านค้าที่รวดเร็ว เพื่อที่ตอบสนองความต้องการอยากรู้ข้อมูลที่ตนเองกำลังสนใจ ซึ่งถ้าตอบกลับช้าโอกาสที่จะพลาดการขายสูงมาก! และต้องเตรียมคำถามเพื่อชวนลูกค้าคุย เช่น สนใจสินค้าตัวนี้อยู่ไหมคะ? มีโปรส่งฟรีอยู่นะคะ เป็นต้น วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณใส่ใจและอยากให้ข้อมูลมากขึ้น

Facebook Marketplace ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มขายของทั่วไป แต่เป็นช่องทางที่ช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้แบบก้าวกระโดด โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหนัก ๆ ถ้ารู้จักใช้เครื่องมือให้ถูกต้อง อัปเดตร้านอย่างสม่ำเสมอ และเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า คุณก็สามารถทำให้ร้านของคุณปังขึ้นได้อย่างแน่นอน!

หากต้องการปรึกษาการวางแผนการตลาดบน Facebook สามารถติดต่อ NIPA Agency ได้เลย! เราคือผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ที่พร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราได้วันนี้!