May 26,2019
<p>ปัจจุบันไม่ว่าจะเลือก<a href="https://www.nipa.co.th/">ทำโฆษณาออนไลน์</a>อะไร Facebook ก็มักเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักๆ ของนักการตลาดเสมอ ที่ผ่านมา Facebook เองก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งตัวฟีเจอร์ และอัลกอลิทึม แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ ต้องเรียนรู้ ปรับตัว และอัปเดตสิ่งต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการ<a href="https://www.nipa.co.th/">ทำโฆษณา</a>นั่นเอง ซึ่งการอัปเดตบางครั้งก็ส่งผลต่อการ<a href="https://www.nipa.co.th/">โฆษณา</a>ของเราเหมือนกัน วันนี้เราไปดูกันดีกว่าว่าอะไรได้เปลี่ยนไปแล้วบ้าง</p>
<p> </p>
<p>– <a href="https://www.nipa.co.th/digital-channels/video-ads/">วีดีโอ</a> จะได้เปรียบกว่า Content ประเภทอื่น</p>
<p>เมื่อ Facebook ให้ความสำคัญกับ <a href="https://www.nipa.co.th/digital-channels/video-ads/">VDO</a> มากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เวลาทำโฆษณาลองเปลี่ยนจากภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวดูบ้างนะคะ แถมเดี๋ยวนี้ <a href="https://www.nipa.co.th/digital-channels/facebook-ads/">Facebook</a> ก็มี Facebook Mobile Studio เข้ามา เพื่อช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์วิดีโอได้ด้วยง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมอื่นเลย</p>
<p> </p>
<p>– ความเร็วในการโหลดก็สำคัญ</p>
<p>เวลาที่เราคลิกโหลดหน้าเว็บที่มีการแชร์ผ่าน Facebook Timeline ควรต้องขึ้นภายใน 3 วินาที ไม่อย่างนั้นคนที่เสพ Content จะกดออก หรือเกิดการเปลี่ยนแบรนด์ได้ทันที ดังนั้นเราต้องหมั่นเข้าไปทดสอบความเร็วของเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีมากขึ้น</p>
<p> </p>
<p>– Baby Boomer ใช้งาน Facebook เพิ่มขึ้น</p>
<p>บอกเลยว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมา คนกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป เริ่มสมัครใช้งาน Facebook มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดี สำหรับการทำการตลาดในคนกลุ่มใหม่ๆ โดยเราจะต้องใช้ข้อความที่กระชับ ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจของคนรับสารมากที่สุดนั่นเอง</p>
<p> </p>
<p>– ความถี่โฆษณาสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคได้</p>
<p>หากคุณอยากให้คนจำแบรนด์/ สินค้าได้ ก็ควรต้องลงโฆษณาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าอยากให้คนตัดสินใจซื้อก็ต้อง<a href="https://www.nipa.co.th/">ลงโฆษณา</a>อย่างน้อยที่สุดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ในปัจจุบันการทำโฆษณาไม่ได้ทำเพื่อสร้างยอดขายเท่านั้น แต่ยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราต้องมีกลยุทธ์ในการลงโฆษณา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั่นเอง</p>
<p> </p>
<p>– การอ่าน Content เปลี่ยนไป</p>
<p>ปัจจุบันพฤติกรรมการอ่าน Content ของกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนแปลงไป เราก็ควรปรับ Content ของเราให้ดึงดูมากขึ้นเช่น การทำเป็น<a href="https://www.nipa.co.th/digital-channels/video-ads/">วีดีโอ</a> หรือการใช้สีสันเข้ามาช่วย และที่สำคัญมากอีกหนึ่งอย่างคือ หากคุณต้องการจะทำโฆษณาแบบวิดีโอก็ไม่ควรจะให้เกิน 15 วินาที เพราะถ้านานเกินไปอาจจะทำให้กลายเป็นวิดีโอที่น่าเบื่อได้ ถ้าเนื้อหาที่นำเสนอไม่น่าสนใจมากพอ</p>
<p> </p>
<p>ถึงแม้ว่าการที่ Facebook อัปเดตนั้น มันจะส่งผลกระทบทั้งผลดี และผลเสียต่อการทำโฆษณา แต่อย่าได้กังวลไป เพราะอย่างที่บอก แค่เราปรับตัว และมองให้เห็นถึงโอกาสที่จะทำให้เกิดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไปจนถึงทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด การปรับเปลี่ยนแต่ละครั้งของ Facebook ก็ไม่มีผลอะไรแล้วนะคะ หากใครที่อยาก<a href="https://www.nipa.co.th/">ปรึกษาการลงโฆษณา</a>ออนไลน์ต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจของคุณ สามารถติดต่อ<a href="https://www.nipa.co.th/">ผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing</a> ของ Nipa ได้เลยที่ 02-639-7878 ต่อ 990 เลยคะ เรายินดีให้บริการค่ะ</p>
Share on
