เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เป็นโปรแกรมที่มาแรงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการทำงานคล้ายกับสมองมนุษย์ที่สามารถคิด สร้างสรรค์ หรือวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เองได้ และต้องบอกว่า AI ก็มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้กันและได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปบ้างแล้ว เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, การปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ด้วย Face ID, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือแอปบอกเส้นทาง Google maps
Google Gemini เป็นตระกูลโมเดลภาษาขนาดใหญ่หลายรูปแบบที่พัฒนาโดย Google AI ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดต่อจาก LaMDA และ PaLM 2 ซึ่งประกอบด้วย Gemini Ultra, Gemini Pro และ Gemini Nano ได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2023 โดยวางตำแหน่งเป็นคู่แข่งของ OpenAI GPT-4
ย้อนกลับไปช่วงปลายปี 2021 คนทั่วโลกได้รู้จักกับสุดยอด AI แชตบอท ที่มีชื่อว่า ChatGPT จากบริษัท OpenAI ซึ่งสามารถสร้างปรากฎการณ์มากมายให้กับวงการเทคโนโลยีจนได้ชื่อว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทรงพลังที่สุดในเวลานั้น
แต่ทว่ามุมมองนี้อาจเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อ Google บริษัทซอฟแวร์และโซลูชันระดับโลก ได้ปล่อยแชตบอทตัวล่าสุดออกมาในชื่อ "GEMINI" (เจมิไน) โดยเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model : LLM) ที่สามารถรองรับข้อมูลได้ทั้งข้อความปกติ โค้ด วิดีโอ หรือรูปภาพ
ในปัจจุบัน เราสามารถใช้ Bard ที่มีโมเดล GEMINI Pro ได้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังจำกัดการใช้งานในสหรัฐอเมริกา และอีก 170 ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษอยู่ ส่วนภาษาหรืออินพุตอื่นๆ จะมีการอัพเดตเพิ่มเติมในอนาคต ส่วนผู้ใช้สมาร์ตโฟน Pixel 8 Pro ของ Google ก็คาดว่าจะเริ่มเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆ จาก GEMINI Nano และสำหรับ GEMINI Ultra คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2024
คำถามต่อมาคือ แล้ว GPT-4 ของ OpenAI Vs. GEMINI ของ Google เอไอตัวไหนทรงพลังมากกว่ากัน ?
คำตอบนี้พิสูจน์ได้จากผลการทดสอบประสิทธิภาพ 32 ข้อ (Benchmarks) เช่น การทดสอบเรื่องความเข้าใจภาษา การทดสอบชุดคำถามวิชา STEM มนุษยวิทยา ชุดคำถามคณิตศาสตร์ ไปจนถึงคำถามเชิงความรู้ในสาขาต่างๆ ผลปรากฎว่า GEMINI สามารถเอาชนะ GPT-4 ไปได้อย่างขาดลอยถึง 30 ข้อเลยทีเดียว จากความความสามารถในการตอบคำถามได้อย่างชาญฉลาด และความพิเศษต่างๆ ของแชตบอท GEMINI เช่น การให้เหตุผลที่ซับซ้อนได้มากกว่า ไปจนถึงความสามารถในการตอบโต้กับเสียงและวิดีโอได้อย่างราบรื่น
ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์ในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน และเราก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าปัญญาประดิษฐ์ สามารถเปลี่ยนโลกไปในทิศทางใด รวมถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนไปได้มากน้อยขนาดไหน