นักการตลาดต้องรู้! เขียนคอนเทนต์ SEO ด้วย AI มีข้อดี - ข้อเสียอะไรบ้าง ?

หากพูดถึงเครื่องมือที่ช่วยในการทำการตลาดยุคใหม่ หลายคนคงคิดถึงเครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT, Gemini หรือ Claude ที่เข้ามาช่วยในการสร้างสรรค์คอนเทนต์และเขียนบทความ SEO ที่ทั้งสะดวกและช่วยให้งานเสร็จอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่คำถามคือ การใช้เครื่องมือ AI มาช่วยในการเขียนคอนเทนต์ SEO จะช่วยเพิ่มคุณภาพงานจริงไหม? หรืออาจทำให้คอนเทนต์ของเราขาดเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป? วันนี้ NIPA Agency จะพาคุณไปดูทั้งข้อดีและข้อเสียของการเขียนคอนเทนต์ SEO ด้วย AI พร้อมเคล็ดลับการใช้ AI ที่จะช่วยให้นักการตลาดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกัน

1. ช่วยสร้างคอนเทนต์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

ข้อดีแรกที่เห็นได้ชัดเลยคือ AI ช่วยให้เราสร้างคอนเทนต์ได้ไวมาก! เพียงแค่เราป้อน Prompt หรือหัวข้อที่ต้องการ AI ก็สามารถสร้างเนื้อหาขึ้นมาให้ได้ทันที ซึ่งในจุดนี้ถือว่าช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาข้อมูลไปได้พอสมควรเลยล่ะ

2. โครงสร้างและเนื้อหาตรงตามหลัก SEO

พอป้อน Prompt หรือสิ่งที่ต้องการไปแล้ว AI จะช่วยให้คอนเทนต์ของเราสอดคล้องกับ SEO ได้ง่ายดาย เพียงแค่ใส่ Keyword ที่ต้องการ AI ก็จะสร้างโครงสร้างบทความที่เหมาะสมมาให้ ช่วยให้เรามีโอกาสในการติดอันดับ Google ได้ง่ายขึ้นด้วย

3. คอนเทนต์เจาะจงและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

AI สามารถช่วยปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ แม้ว่าเครื่องมือ AI จะยังไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้อ่านได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมผู้ใช้งาน, Keyword ที่ได้รับความนิยม และเทรนด์ที่กำลังมาแรง เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดและตรงความต้องการกับคนอ่านมากขึ้นได้

4. เนื้อหามีความหลากหลาย ไม่จำเจ

บางครั้งการเขียนคอนเทนต์โดยไม่มีเครื่องมือมาช่วยก็อาจทำให้เนื้อหาที่ออกมามีลักษณะซ้ำ ๆ กัน ซึ่งในจุดนี้แหละที่ AI เข้ามาช่วยให้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาคอนเทนต์ในรูปแบบที่หลากหลาย และไม่ต้องมาคิดหัวข้อใหม่อยู่บ่อย ๆ

1. ขาดความเป็นมนุษย์ ถึงแม้ AI จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายและดูสมเหตุสมผลได้ แต่บางครั้งก็อาจขาดการเชื่อมโยงอารมณ์หรือภาษาที่เป็นมนุษย์ไป ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้คอนเทนต์ที่สร้างออกมาขาดการเชื่อมโยงกับผู้อ่านได้

2. ไม่สามารถเข้าใจบริบทของเนื้อหาได้ทั้งหมด เครื่องมือ AI หลายตัวยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจบริบทของเนื้อหาที่ต้องลงรายละเอียดที่เจาะลึก โดยเฉพาะเนื้อหาที่ต้องระบุกลุ่มเป้าหมายเจาะจง ซึ่งบางครั้ง AI อาจพลาดรายละเอียดสำคัญ หรือไม่สามารถจับประเด็นสำคัญจากบริบทต่าง ๆ ได้เหมือนอย่างมนุษย์ที่มีความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งมากกว่า

3. ขาดความสร้างสรรค์ในการสร้างเนื้อหา แม้ว่า AI จะช่วยสร้างคอนเทนต์ในจำนวนหลายชิ้น แต่บางครั้งก็อาจขาดความโดดเด่นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากข้อจำกัดของ AI ที่ไม่สามารถคิดได้ซับซ้อนและเข้าใจบริบทได้เท่ากับมนุษย์

1. ตรวจสอบและปรับแต่งเนื้อหาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเขียนคอนเทนต์ SEO ด้วย AI หรือว่ารวบรวมข้อมูลและเขียนด้วยตัวเอง ก็ควรมีการตรวจสอบและปรับแต่งเนื้อหาหลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมด้วยเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

2. ใช้ AI ในการสร้างโครงร่างและไอเดีย ถ้ากลัวว่าเนื้อหาจะซ้ำ หรือเป็นการนำเนื้อหาจากที่อื่นมา ให้ปรับการใช้เครื่องมือ AI ใหม่ โดยให้ AI เป็นผู้ช่วยในการสร้างไอเดีย หรือวางโครงร่างของคอนเทนต์แบบคร่าว ๆ ไว้ได้ แล้วค่อยนำไอเดียนั้นมาพัฒนาต่อยอดเป็นคอนเทนต์ที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง เพื่อคงเอกลักษณ์และความน่าสนใจไว้

3. ใช้ AI ควบคู่ไปกับการทำ Research หากต้องการลดระยะเวลาในการ Research แต่ก็ยังอยากได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ ให้ AI ช่วยในการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นได้นะ โดยอาจจะระบุสิ่งที่ต้องการให้กับ AI และนำข้อมูลที่ได้ไปค้นหาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออีกครั้งก็ได้

4. ใช้ AI ช่วยตรวจสอบ Grammar และการใช้ภาษา เราสามารถใช้ AI เพื่อช่วยตรวจสอบ Grammar, การสะกดคำ และการใช้ภาษาที่ถูกต้องได้นะ หรือหากใครที่รู้สึกว่าคอนเทนต์ของตัวเองภาษายังไม่ลื่นไหลที่ควร หรืออ่านแล้วดูติดขัดก็ให้ AI ช่วยปรับสำนวนภาษาให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน

สรุป

การใช้ AI ไม่ใช่แค่ใช้ให้เป็นแค่เครื่องมือการเขียนคอนเทนต์ SEO แต่ควรรู้วิธีใช้เพื่อดึงประสิทธิภาพและผลลัพธ์ออกมาได้ดีที่สุด โดยจะต้องผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองเข้าไป เพื่อให้เนื้อหามีความโดดเด่น และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายด้วย

ถ้าใครที่ต้องการคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ SEO และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง สามารถปรึกษาและใช้บริการ NIPA Agency ได้เลย เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ทักหาเราเลยวันนี้!