เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
ยิ่งเทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาไปมากขึ้นเท่าไร ผู้บริโภคก็ยิ่งเสพติดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมแบบไม่มีตก การทำเว็บไซต์ขายของจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักการตลาดมองข้ามไม่ได้ หรือหากแบรนด์ใดที่มีเว็บไซต์ขายของอยู่แล้ว ก็ยังจำเป็นที่จะต้องหันกลับมารีเช็กและปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค
ลดค่าใช้จ่าย: การทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ช่วยให้แบรนด์สามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาร้านค้า เป็นต้น ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถสร้างกำไรได้มากขึ้น
สร้างแบรนด์และการตลาด: การทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจสร้างแบรนด์และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
เว็บไซต์ขายของออนไลน์ทำหน้าที่เป็นหน้าร้าน และสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ดังนั้นการอัปเดตเว็บไซต์โดยคอยหมั่นตรวจสอบความบกพร่องอยู่เสมอ ย่อมทำให้หน้าร้านของคุณดูน่าดึงดูดใจ มีการบริการที่ดี สะดวก และง่ายต่อการซื้อขาย ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ต้องคอยหมั่นอัปเดตให้กับเว็บไซต์ของคุณ มีดังนี้
หากเว็บไซต์ของคุณมีความล้าสมัย ย่อมทำให้ผู้เข้าชมติดภาพลักษณ์ว่าแบรนด์ของคุณมีความล้าสมัย และอาจนำไปถึงการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจในความปลอดภัยเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาอีกด้วย
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือแบรนด์จะต้องทำเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลในหลากหลายอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มือถือ” เนื่องจากผู้บริโภคส่วนมากเข้าชมเว็บไซต์จากมือถือ หากเว็บไซต์ อ่านยาก หน้าจอแสดงผลไม่พอดีกับหน้าจอมือถือ อาจทำให้ลูกค้าหลายคนหลุดมือไปได้ง่ายๆ
เนื่องจาก Flash Adobe ถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้ว ทำให้ทุกเว็บไซต์ที่ใช้โปรแกรมนี้ในการทำเว็บไซต์จะไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้เข้าชมพลาดข้อมูลของสินค้าและบริการบางอย่าง สร้างประสบการณ์ที่ไม่ดี และยังทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นไปในทางลบ เราแนะนำให้หันมาทำเว็บไซต์โดยใช้ HTML5 หรือแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อให้เว็บไซต์ขายของของคุณโหลดได้ไว ไม่ต้องรอนาน แถมยังสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์อีกด้วย
จุดประสงค์หลักของการทำเว็บไซต์คือการสร้างหน้าร้านออนไลน์ไว้สำหรับจัดจำหน่ายสินค้า หากไม่มีหน้าสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการ และหน้าชำระเงิน ต้องอาศัยการคลิกลิงก์ไปซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มอื่น นอกจากจะไม่ค่อยสะดวกสบายแล้วยังทำให้แบรนด์ติดตามข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคจาก Google Analytics (GA) ได้ยากอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้แบรนด์พลาดข้อมูลสำคัญในการทำ Remarketing ไปอย่างน่าเสียดาย
เพราะยุคนี้แบรนด์จะมีช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารเพียงช่องทางเดียวไม่ได้ ดังนั้นแบรนด์จึงควรทำเว็บไซต์ให้เชื่อมโยงไปถึง Social media ต่างๆ ของแบรนด์ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อย่างมาก และยังสร้าง Traffic ที่ดีให้กับแต่ละแพลตฟอร์ม เพิ่มความสะดวกในการสอบถามข้อมูล เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO จะทำให้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ดังนั้นนักการตลาดจึงควรคอยเช็กคีย์เวิร์ดที่ใช้ภายในเว็บไซต์ ติดตั้ง Meta tags ตรวจสอบทั้ง Internal link และ External link เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น ได้รับคะแนนที่ดีขึ้นจาก Google และส่งผลดีต่อการทำ SEO ในอนาคต
แต่เดิมการทำเว็บไซต์จะมีเพียงตัวอักษรและภาพนิ่ง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น รวมถึงความเร็วอินเทอร์เน็ตก็สูงขึ้นมาก จึงทำให้การสอดแทรกวิดีโอ, กราฟิก 3D หรือ Motion design เป็นเรื่องง่ายขึ้น และไม่ส่งผลต่อความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจมากเกินไปอีกด้วย ตำแหน่งที่แนะนำคือด้านบนสุดของหน้าหลัก เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
นำเสนอข้อมูล หรือเรื่องราวของแบรนด์ในแนวตั้ง เมื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์เลื่อน Scroll ลง ก็จะได้รับข้อมูลใหม่ๆ สร้างความรู้สึกว่าเว็บไซต์ขายของของคุณมีความน่าติดตาม และใช้เวลากับการชมข้อมูลของแบรนด์มากขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์
อาจใช้ภาพ วิดีโอ กราฟิก 3D หรือแม้กระทั่ง Typography ที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกอย่างชัดเจน เพราะต้องยอมรับว่าในยุคนี้ บางครั้งผู้บริโภคก็ตัดสินใจซื้อสินค้าจากอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าการพิจารณาด้วยเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดสินใจซื้อที่มักเกิดขึ้นแบบกะทันหัน
สิ่งนี้จะช่วยทำให้เว็บไซต์ขายของของคุณสามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริง เพิ่มการมีส่วนร่วม ทำให้เว็บไซต์น่าจดจำ ใช้งานง่าย สะดวกในการค้นหาข้อมูล และประหยัดเวลา
การทำเว็บไซต์ให้ทันสมัยด้วยเทคนิคใหม่ๆ ตามเทรนด์ที่แนะนำไปข้างต้น ค่อนข้างเป็นเรื่องยากและซับซ้อน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านต่างๆ เข้ามาให้ความร่วมมือในการจัดทำเว็บไซต์ขายของ
Nipa Agency มีทีมงานพร้อมตั้งแต่ โปรแกรมเมอร์ ดีไซเนอร์ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายดูแลลูกค้าและประสานงาน พร้อมดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับการทำเว็บไซต์ในราคาเป็นกันเอง สมเหตุสมผล ไม่ต้องเสียเวลาศึกษาและลงมือทำเอง