June 6,2024
ท่ามกลางโฆษณา Google Ads นับหมื่นนับแสนชิ้นบนโลกออนไลน์ แบรนด์ธุรกิจควรทำอย่างไร ? เพื่อให้ชิ้นงานโฆษณา สามารถเจาะเข้าถึงสายตาของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ทั้งยังมีความคุ้มทุน คุ้มค่า นำไปสู่ยอดขายที่พุ่งทะลุเพดาน และหนึ่งในคำตอบของคำถามนี้ก็คือ การให้ความสำคัญกับ “Quality Score” ซึ่งเป็นคะแนนสำคัญที่ใช้วิเคราะห์ว่า โฆษณา Google Ads ที่แบรนด์ธุรกิจได้ทำไปนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
แล้ว Quality Score นี้คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการทำโฆษณา Google Ads ไปหาคำตอบพร้อมกับ NIPA Agency กันได้เลย
รู้จักความหมายของ Quality Score กับความสำคัญต่อ Google Ads
Quality Score เป็นคะแนนที่ใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพของการทำโฆษณา Google Ads โดยจะเปรียบเทียบกับผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ แล้วให้คะแนนตั้งแต่ 1-10 คะแนน ซึ่งหากโฆษณา Google Ads มี Quality Score สูง ก็หมายถึงโฆษณานั้นๆ มีคุณภาพหรืออาจเป็นโฆษณาที่ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้คนกำลังค้นหาอยู่นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน Quality Score แม้จะไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จของการทำโฆษณา แต่ก็มีผลต่อการทำโฆษณาบน Google หลายด้าน เช่น
-
<p dir="ltr">ตำแหน่งโฆษณา หากมีค่า Quality Score สูง ก็จะช่วยให้โฆษณาของธุรกิจแสดงอยู่ในอันดับต้นๆ ในหน้าค้นหาของ Google ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตัวจริงมองเห็นโฆษณาของธุรกิจและตัดสินใจซื้อได้มากยิ่งขึ้น</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">ราคาโฆษณา ยิ่ง Quality Score สูง ก็ยิ่งส่งผลให้ค่าคลิก (CTR) ลดน้อยลง ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการงบประมาณโฆษณาได้อย่างคุ้มค่า</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">ประสิทธิภาพของโฆษณา เพราะหากตัวโฆษณามีความน่าสนใจ มีการให้ข้อมูลของสินค้าครบถ้วน ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นผู้ซื้อได้ในที่สุด</p> </li>
3 ปัจจัยที่มีผลต่อการคำนวณ Quality Score
-
<p dir="ltr">Keyword หรือความสอดคล้องของคีย์เวิร์ดและข้อความบนโฆษณา ซึ่งหากมีความสอดคล้องกันมาก ก็จะส่งผลต่อคะแนน Quality Score ที่เพิ่มสูงขึ้น </p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">Landing Page เป็นหนึ่งปัจจัยที่หลายธุรกิจมองข้าม ซึ่งหากหน้า Landing Page มีการแทรกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาในจำนวนที่เหมาะสม มีข้อมูลสินค้าที่ตรงกันทั้งในตัวโฆษณาและหน้า Landing Page ก็จะช่วยเพิ่มคะแนนในส่วนนี้ได้</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">Click Through Rate (CTR) หรืออัตราการคลิกที่เกิดจากการแสดงผลของโฆษณา Google Ads โดยหากมีคนพบเห็นโฆษณาและกดคลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก คะแนนในส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย</p> </li>
แนะนำ! เคล็ด (ไม่) ลับเพิ่ม Quality Score
-
<p dir="ltr">ปรับปรุงหน้า Landing Page ด้วยการใส่ข้อมูลของสินค้าหรือบริการให้ตรงกัน ทั้งบนโฆษณาและหน้า Landing Page ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถอ่านรายละเอียดของสินค้าหรือมองหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายดายขึ้น </p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">ใส่ Keyword ที่เกี่ยวกับโฆษณา ให้สอดคล้องกันในทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นตัวโฆษณา Ad Text หรือในหน้า Landing Page เพื่อให้ Google จับข้อความที่เหมือนกัน และเพื่อเพิ่ม Quality Score ให้สูงขึ้น</p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">เพิ่มคำหรือข้อความที่กระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมตัดสินใจ เช่น ลงทะเบียน รับสิทธิ์ ทดลองใช้สั่งซื้อ, Promotion โดยควรเพิ่มให้เหมือนกันทั้งในโฆษณาและหน้า Landing Page </p> </li> <li aria-level="1" dir="ltr"> <p dir="ltr">มอบ User Experience ที่ดีให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ให้น่าสนใจหรือชูเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งาน เว็บไซต์แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว (<a href="https://pagespeed.web.dev/">Page Speed</a>)</p> </li>
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม เช่น การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับการแสดงผลบนอุปกรณ์ทุกรูปแบบ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน การปรับปรุงหน้าสั่งซื้อสินค้าให้ใช้งานง่าย เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ เป็นต้น ธุรกิจจึงควรพัฒนาและปรับปรุงการทำโฆษณา Google Ads อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มคะแนน Quality Score ต่อไป
การทำ Google Ads ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้น ธุรกิจจำเป็นต้องโฟกัสในหลายๆ เรื่อง เช่น การบริหารงบโฆษณา การค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ การปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าบนแพลตฟอร์ม Google แต่จะดีกว่ามั้ย ? หากมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาช่วยเหลือคุณ! ทักหา Nipa Agency ได้เลย เรามีทีมการตลาดออนไลน์มืออาชีพที่พร้อมซัพพอร์ตทุกธุรกิจ มั่นใจได้ในคุณภาพ
Share on