หา Influencer ยังไงให้ตอบโจทย์ ตรงใจ ตรง Identity แบรนด์

หลายแบรนด์เริ่มต้นวางแผนหาอินฟลูเอนเซอร์ จากงบประมาณที่มี ก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพราะเรื่อง Budget ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องควบคุมไม่ให้บานปลาย แต่สำหรับการทำ Influencer Marketing นั้น การ Focus ที่ Budget อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะองค์ประกอบอื่นๆ อย่างการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ การสร้าง Awareness การเรียกยอด Engagement ฯลฯ ก็สำคัญไม่แพ้กัน การหา Influencer จึงไม่ใช้ใครก็ได้ ที่จะช่วยเป็นสื่อกลางในการส่งต่อข้อมูลจากแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมาย แต่ต้องเป็นคนที่ใกล้เคียงกับ Brand persona ที่เราวางไว้ มีตัวตนที่คล้ายกับ Identity ของแบรนด์ 

ดังนั้น สิ่งสำคัญของการสร้างการจดจำเลย คือ เราต้องเข้าใจในแบรนด์ของตัวเองอย่างถ่องแท้ ด้วยการหา Brand Identity ให้ชัดเจน เพื่อที่จะสร้าง Touch point อื่นๆ ให้ร้อยเรียงไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการจ้าง Influencer ด้วยเช่นกัน 

ก่อนหา Influencer มาค้นหา “Brand Identity” กันก่อน

หลายคนคงคุ้นเคยกับการหา Brand Identity ด้วย Prism นี้กันแล้ว วันนี้ Nipa ชวนมาทวนการค้นหาแก่นแท้ของแบรนด์ตัวเองด้วย Prism กันอีกครั้ง เพื่อให้เห็นภาพแบรนด์ที่ชัดเจนขึ้น ก่อนไปหา Influencer ให้ตรงใจ และตอบโจทย์แบรนด์ได้จริง

Source : https://www.albertocarniel.com/post/brand-identity 

1. Physique (รูปลักษณ์) ลักษณะทางกายภาพ ที่สามารถมองเห็นได้ของแบรนด์ เช่น โลโก้ CI การออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการสื่อสาร 
2. Personality (บุคลิกภาพ) บุคลิกภาพ หรือคุณลักษณะที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร เช่น แบรนด์อาจมีบุคลิกเป็นมิตร เป็นทางการ หรือเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญ
3. Culture (วัฒนธรรม) คุณค่าและวัฒนธรรมที่แบรนด์สนับสนุนและยึดถือ เช่น การสนับสนุนความยั่งยืน ความเป็นธรรม การสนับสนุนความเท่าเทียม สนับสนุนความหลากหลาย เป็นต้น
4. Relationship (ความสัมพันธ์) ลักษณะของความสัมพันธ์ที่แบรนด์ต้องการเชื่อมโยงลูกค้า เช่น ความเอาใจใส่ การให้บริการที่ดี หรือการมีส่วนร่วมใน Community 
5. Reflection (ภาพสะท้อน) ภาพลักษณ์ที่แบรนด์ต้องการให้ลูกค้ามองเห็นเมื่อใช้สินค้าและบริการของแบรนด์ เช่น ความเป็นมืออาชีพ ความทันสมัย หรือความเป็นผู้นำ 
6. Self-Image (ภาพลักษณ์ในตนเอง) ความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อการใช้แบรนด์ เช่น การใช้แบรนด์เพื่อแสดงออกถึงสถานะทางสังคม หรือการใช้แบรนด์เพื่อแสดงถึงความเป็นตัวตนที่หรูหรา มีระดับ 

การหา influencer ให้ตรง Brand Identity

การหา influencer ที่ตรงกับ Brand identity ของเราเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค 

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย : รู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เช่น อายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรมการใช้สินค้า
2. วางจุดประสงค์ของการจ้าง influencer กำหนดจุดประสงค์ของการใช้ Influencer marketing เช่น นำมาช่วยโปรโมตแคมเปญการตลาด ช่วยรีวิวสินค้า ช่วยสร้างแบรนด์  
3. วาง Key Message ให้อินฟลูฯ เพื่อให้อินฟลูเอนเซอร์รู้ว่าควรนำเสนอด้วยทิศทางไหน ใช้ภาษาและ Mood & Tone แบบไหน สร้างการจดจำด้วยประโยคแบบไหน 
4. ประยุกต์ใช้ Identity prism กับการหา influencer

Source : https://askin-experts.blogspot.com/2011/12/brand-identity-prisms.html 

ตัวอย่างจากแบรนด์ NIVEA

Physique : โลโก้สีน้ำเงิน สินค้าเป็นสกินแคร์ที่บำรุง และปกป้องผิวของสาว ๆ 

• Personality : ผู้หญิงที่ดูดี เป็นมิตร สวย และมีความเป็นธรรมชาติ 

• Culture : ยึดหลักความเรียบง่าย อ่อนโยน มีประสบการณ์ 

• Relationship : ความห่วงใยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น

• Reflection : เป็นแบรนด์ที่ผู้หญิงไว้วางใจ จากประสบการณ์ และเห็นผลจริงจากการสัมผัสผิวของแม่ หรือผิวของคุณย่าคุณยาย 

• Self-Image : นีเวียที่ปกป้องและบำรุงผิวไปพร้อมกัน สร้างความรู้สึกดีๆ พร้อมแบ่งปัน Moment ของความสุข พร้อมการสัมผัสคนที่คุณรัก

โดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการทำ Influencer marketing และ 6 องค์ประกอบของ Identity prism ซึ่งเราขอยกตัวอย่างเป็นสินค้าของแคมเปญงาน Event NIVEA เปิดตัวสินค้า C&HYA ที่มี Product หลากหลาย ทั้ง Wash foam, Essence water, Serum ที่เป็นไลน์สินค้าที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่ง NIVEA ก็ได้เลือกคุณ Brinkkty และแก๊งเพื่อนสาวของคุณบริ๊งค์มาเป็นอีกหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์ที่ช่วยโปรโมต Event นี้ด้วย 

จะเห็นได้ว่าคุณบริ๊งค์และเพื่อน ๆ นั้นมีความใกล้เคียงกับ Personality ที่วางไว้ คือมีความดูดี เป็นมิตร มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการแต่งหน้า มีผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใกล้เคียงกับ Target ของกลุ่ม Product ไลน์นี้ด้วย

หรืออีกหนึ่งไลน์สินค้าที่มีคุณตู่ซาวติสมาช่วยโปรโมตโลชันทาผิว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่ง Beauty Blogger ที่มีผู้ติดตามนับล้านที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ ใส่ใจความสวยความงาม เข้าถึงง่าย และมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง สื่อสารออกมาได้ตรงจุด

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ Influencer marketing ที่ประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ แคมเปญของ nocnoc ที่ต้องการสร้างการรับรู้ของแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีความทันสมัย เสิร์ฟความสะดวกสบายให้คนรุ่นใหม่ที่ชอบแต่งบ้าน มองว่าการแต่งบ้านคืออีกหนึ่งความสนุก เลือกเฟอร์ฯ อย่างพิถีพิถัน มองทั้งความสวยงาม และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ 

โดยมีคุณว่านไฉ อาสาพาไปหลง มาช่วยในการโปรโมตด้วยคอนเทนต์รีโนเวทบ้าน หรือรีโนเวทคอนโดฯ มีคนดูหลักแสนเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่า nocnoc อาศัยช่วงเวลาที่เหมาะเจาะในการเข้าไปเป็น Sponsor ให้คุณว่านไฉที่กำลังมีแพลนรีโนเวทบ้านเก่ากว่า 50 ปี เพื่อเป็นสถานที่จัดงานวิวาห์กับคุณอาย กมลเนตร และเป็นทั้งเรือนหอ ได้แบบพอดิบพอดี และมองขาดในเรื่องของการหา Influencer ที่ตอบโจทย์ Identity ทั้งการสื่อสาร ไลฟ์สไตล์ ช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ และว่านไฉคนนี้ เรียกได้ว่าติ๊กถูกทุกข้อ!  

การหา influencer ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เล็กอย่าง Micro influencer ไปจนถึงเบอร์ใหญ่อย่าง Macro Influencer ก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ในการตัดสินใจว่าจะเลือกใครที่จะช่วยเป็นกระบอกเสียงหรือเป็นคนกลางในการส่งสารถึงกลุ่มคนที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของเรา จะประสบความสำเร็จหรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับ Identity ของ Influencer คนนั้นๆ ว่าจะคลายคลึงกับ Identity ของแบรนด์ด้วยหรือไม่ 

หากแบรนด์ไหนกำลังมองหาอินฟลูฯ แล้ว Have no clue ไม่รู้ว่าเลือกใครให้ตอบโจทย์แบรนด์ ให้ NIPA Agency ช่วยวางแผนการทำ Influencer Marketing รับรองว่าตอบโจทย์ ตรงใจ ตรง Identity แบรนด์แน่นอน!