เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
ทำคอนเทนต์ทั้งทีก็ต้องสื่อสารให้ตรงจุด! ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเคยเห็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์อย่าง Personalization ที่ช่วยให้เราเข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดกันมาบ้างแล้ว แต่ตอนนี้มีขั้นกว่าของความเข้าใจ นั่นก็คือ Hyper Personalization นั่นเอง ไปทำความรู้จักพร้อมกันเลยว่า Hyper Personalization คืออะไร แตกต่างจาก Personalization อย่างไร แล้วมีประโยชน์กับธุรกิจของเราอย่างไรบ้าง!
Hyper Personalization เป็นการตลาดที่เราสามารถเจาะลึกได้ถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด เฉพาะเจาะจง ถือเป็นข้อมูลที่จะช่วยให้เราวิเคราะห์แผนการตลาดได้อย่างแม่นยำมากกว่าที่เคย สามารถปรับแต่งสินค้า บริการ และสารสนเทศ โดยยึดความชอบ พฤติกรรม และลักษณะที่ไม่เหมือนกันของผู้ใช้แต่ละคนเป็นหัวใจสำคัญ
ในการทำกลยุทธ์นี้ เราจะต้องเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งต่างๆ เช่น การพูดคุยกับลูกค้า ประวัติการซื้อ พฤติกรรมการเลือกซื้อ การตัดสินใจหรือการเลือกชมคอนเทนต์ในหน้าเพจ เป็นต้น ยิ่งเราเข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถพัฒนา สร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งรู้ลึก ยิ่งยิงแอดโฆษณาได้ถูกจุด ยอดขายเพิ่มแบบเต็มๆ
โดยทั่วไป Personalization เป็นเพียงการเอาข้อมูลพื้นฐานภายในมาใช้ อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล ที่อยู่ การจับจ่ายใช้สอย ปริมาณการจับจ่ายของเราในอดีต แต่อย่างที่บอกว่า Hyper Personalization เจาะได้ถึงข้อมูลเชิงลึก แน่นอนว่าจะต้องลึกล้ำกว่าข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้ว
โดย Hyper Personalization จะวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใช้ข้อมูล Real-time data มาประกอบ เป็นประโยชน์มากสำหรับการทำคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์การซื้อของกลุ่มเป้าหมาย สามารถออกแบบงานที่จะช่วยดึงความสนใจ กระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการออกแบบ ภาษา รูปแบบของคอนเทนต์ และการนำคอนเทนต์ไปยิงแอดโฆษณาหรือยิงโฆษณา TikTok เพื่อให้สินค้าหรือบริการเข้าตาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ
สรุปง่ายๆ ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง Hyper Personalization และ Personalization แบบเดิมอยู่ที่ระดับความเจาะลึกของการใช้ข้อมูลและการนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับแต่งในระดับที่ละเอียด เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าแต่ละคนมากยิ่งขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพของการตลาด เพราะการทำ Hyper Personalization ช่วยให้วางแผนการโปรโมต ทำคอนเทนต์ และสร้างโปรโมชันที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจให้กับลูกค้าแต่ละคนได้ ถือว่าสร้างโอกาสในการดึงดูดและรักษาฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เพิ่มยอดขาย เพราะ Hyper Personalization จะช่วยให้เราทำคอนเทนต์และยิงแอดโฆษณาได้ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายชอบ กำลังตามหา หรือช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ทันที เรียกได้ว่ายิ่งเราขายถูกจุด ก็จะเพิ่มยอดขายได้แน่นอน
รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ นอกจากจะหว่านล้อมลูกค้าใหม่มาได้ การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรให้ความสนใจ ซึ่ง Hyper Personalization จะมีบทบาทด้านการวิเคราะห์ว่ากลุ่มลูกค้าเดิมของเราชอบอะไร เราควรทำคอนเทนต์แบบไหน โปรโมชันอะไรที่จะช่วยให้เขาตัดสินใจซื้อ อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยาวนาน รวมถึงยังอาจช่วยให้เกิดการบอกต่อ ขยายกลุ่มเป้าหมายเราให้ไกลกว่าเดิม
ลดขั้นตอนการให้บริการ ไม่ต้องเสียเวลาพูดคุย เพราะ Hyper Personalization จะช่วยให้เราทราบได้ว่าควรจะเสนอขายแบบไหน ยิงแอดโฆษณาอย่างไร สื่อสารแบบไหนจะปิดการขายได้ ทำให้เราสามารถให้บริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้จักพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียดยิบ ไม่ว่าจะสื่อสารกันด้วยแพลตฟอร์มไหนยอดขายก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เราสามารถนำข้อมูล Hyper Personalization มาใช้ทำคอนเทนต์ วางแผนการตลาด หรือยิงแอดโฆษณาได้ง่ายๆ แค่ใช้เครื่องมือสุดทันสมัยเป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง Google Analytics สำหรับวิเคราะห์และเข้าใจพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ หรือ Adobe Analytics ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าชมและพฤติกรรมของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
แต่ถ้าใครยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Hyper Personalization ไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไร เลือกข้อมูลมาวางแผนเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้ผล ปรึกษาเราได้เลย! เพราะที่ NIPA AGENCY เรามีมืออาชีพที่จะช่วยให้คุณวางแผนการตลาดได้อย่างตรงจุด รู้ลึก รู้จริง ไม่ว่าจะด้านคอนเทนต์ ยิงแอดหรือด้านอื่นๆ เราก็พร้อมให้บริการ เพิ่มยอดขาย สร้างการเป็นที่รู้จักอย่างมีประสิทธิภาพไปกับเรา