เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
การตลาดออนไลน์ ในปัจจุบันเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะ Social Media และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การค้าปลีกผ่าน Facebook Instagram หรือ TikTok เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนจึงเลือกสร้างธุรกิจผ่านช่องทางดังกล่าวเพราะมีผู้ซื้อแวะเวียนผ่านหน้าร้านออนไลน์เข้ามาเป็นจำนวนมา
ทำให้นอกจาก E-Commerce แล้ว Social Commerce หรือการทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มาแรงไม่แพ้กัน และอาจแซงการตลาดออนไลน์แบบเดิมได้ในไม่ช้า เรามาทำความรู้จักกับ Social Commerce การค้าปลีกรูปแบบใหม่นี้ไปพร้อมๆ กันเลย!
Social Commerce มาจากคำว่า Social Media รวมกับ E-Commerce หมายถึงการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นตัวกลางในการทำ Online Marketing นำเสนอสินค้าหรือบริการให้กับกลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนให้โซเชียลมีเดียเป็นแหล่งซื้อขาย สามารถเห็นโฆษณา หาข้อมูล หารีวิวสินค้า และตัดสินใจจับจ่ายสินค้าหรือบริการที่ต้องการผ่าน Facebook Instagram X หรือ TikTok ได้เลยทันที ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนแพลตฟอร์มไปมา ต่างจาก E-Commerce ที่เป็นการซื้อขายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของธุรกิจนั้นๆ โดยเฉพาะ
Social commerce จัดเป็นหนึ่งในเทรนด์การตลาด 2024 ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสุดฮิตแต่ละเจ้าก็ได้พัฒนาฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์การมาถึงของ Online Marketing รูปแบบใหม่และรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่การทําตลาดออนไลน์กันอย่างแข็งขัน ช่วยให้เราสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ครบ จบในที่เดียว!
ข้อดีแรกของ Online Marketing อย่าง Social Commerce ได้แก่ การที่แบรนด์สามารถพูดคุยและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ทั้งการทักแชทส่วนตัว การคอมเมนต์ ผู้บริโภคเองก็สามารถปรึกษาเพื่อนในโซเชียลมีเดียก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าถึงและเข้าใจพฤติกรรมที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นกว่าการเป็นผู้ส่งสารให้ผู้บริโภคฝ่ายเดียว
ข้อดีต่อมาคือ Social Commerce ช่วยลดความยุ่งยากในการทำการตลาดออนไลน์ ทั้งการจับจ่าย ไม่ต้องสลับแอปพลิเคชันไปมาจนลูกค้าเปลี่ยนใจกลางคัน ลดขั้นตอนการตัดสินใจให้เหลือน้อย เพื่อปิดการขายได้เร็วที่สุด สนใจก็แค่คลิกจ่ายเงิน รอของที่บ้านแบบชิลๆ เลย
ข้อต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการที่ Social Commerce ช่วยให้เจ้าของธุรกิจไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ตั้งหน้าร้าน แต่อยู่ท่ามกลางผู้บริโภคจำนวนมาก เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นจาก Online Marketing แบบเดิมที่ต้องรอให้คนที่สนใจจริงๆ แวะเข้ามาสอบถามก่อนถึงจะมีโอกาสปิดการขายได้
ข้อสุดท้ายคือการที่แพลตฟอร์มปรับตัวรองรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้ใช้งานอยู่เสมอ เราไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาปรับพื้นที่การขายเอง แถมยังมี AI ที่จะช่วยให้เรา Personalized คอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายของเราชื่นชอบ ส่งเสริมการขาย และยิงโฆษณาไปหากลุ่มที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าและบริการของเราได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องเปลืองแรง
แม้ว่าการตลาดออนไลน์อย่าง Social Commerce จะได้รับความสนใจและความนิยมสูง เพราะโซเชียลมีเดียยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่แอปฯ ใดก็แอปฯ หนึ่ง แต่ตอนนี้ก็ยังมีหลายคนที่ชื่นชอบและคุ้นเคยกับการซื้อขายผ่าน E-Commerce อยู่ และการจะมัดใจผู้บริโภคได้อย่างอยู่หมัดไม่ว่าจะการตลาดแบบไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเข้าใจว่าสิ่งที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายเราคืออะไร และเราสามารถปรับใช้ฟีเจอร์ในแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อปิดการขายอย่างว่องไวที่สุดได้อย่างไรบ้าง
หากใครที่สนใจการทำ Online Marketing สุดทันสมัยทั้ง Social Commerce และ E-Commerce แต่ไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไง ไม่รู้ว่าพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคเราเป็นอย่างไร ปรึกษา Nipa ได้เลย! เรามีผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่พร้อมให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดบน Facebook Instagram X TikTok หรือแพลตฟอร์มยอดฮิตอื่นๆ พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนแรก มั่นใจได้ว่ายอดขายพุ่งกระฉูดแน่นอน