02-639-7878 ต่อ 990

เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.

ปิดหน้าต่างนี้
โฆษณาบน LINE
โฆษณาบน Facebook
โฆษณาบน Instagram
โฆษณาบน Google
โฆษณาบน YouTube
โฆษณาบน Twitter
โฆษณาบน TikTok
รับออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจ
SEO ( Search Engine Optimization )
Content Marketing
การตลาดบน E-mail และ SMS
รับจ้างรีวิวสินค้า และบริการ
รับทำวิดีโอโฆษณา
โฆษณาบน Facebook Ads
บริการ ChatBot
ยืนยัน
Nipa Digital Marketing Add Line
SEO

ไม่รู้จะเริ่มทำ SEO ยังไง ให้ 6 Martech เป็นตัวช่วย

หน้าหลัก
บทความ
SEO
ไม่รู้จะเริ่มทำ SEO ยังไง ให้ 6 Martech เป็นตัวช่วย
ไม่รู้จะเริ่มทำ SEO ยังไง ให้ 6 Martech เป็นตัวช่วย

หลายคนอาจรู้สึกว่า การเขียน SEO เป็นเรื่องที่ทั้งยากและวุ่นวาย ไม่รู้จะต้องวางแผน วิเคราะห์หรือจับต้นชนปลายอย่างไรให้เว็บเราติดอันดับต้น ๆ วันนี้ NIPA มีตัวช่วยสุดล้ำสมัยอย่าง Martech ถึง 6 เครื่องมือมาให้เลือกใช้ตามความสะดวกกันได้เลย

แต่ก่อนจะไปดูเครื่องมือแต่ละชนิด เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า SEO และ Martech คืออะไร


SEO คืออะไรอ่านได้ที่นี่


Martech คืออะไร


Martech คือ การใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยให้การทำ Digital Marketing ทั้งการจัดเก็บ วิเคราะห์ หรือติดตามข้อมูลของลูกค้าและข้อมูลของคู่แข่ง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกสบายและช่วยให้เราสามารถเตรียมกลยุทธ์รับมือกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง แม่นยำมากที่สุด


Martech Tools ที่ NIPA แนะนำสำหรับการทำ SEO มีอะไรบ้าง ?


  1. Ahrefs เครื่องมือ Martech สำหรับทำ SEO ที่เป็นที่นิยมที่สุด มีฟีเจอร์มากมายเพื่อช่วยให้เราวางแผน ติดตามผล และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำ SEO เพื่อให้เราติดอันดับบน Google ได้ ไม่ว่าจะเป็น Backlink Checker, toolbar, keyword research, competitors analysis ไปจนถึงการทำ site audits

    Ahrefs สามารถวิเคราะห์เว็บไซต์ (Site Explorer) วิเคราะห์คีย์เวิร์ด (Keyword Explorer) ตรวจสุขภาพเว็บไซต์ (Site Audit) ติดตามการจัดอันดับเว็บไซต์ (Rank Tracker) และวิเคราะห์และออกแบบเนื้อหา (Content Explorer) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สำหรับสาย Marketing ที่มีพื้นฐานเกี่ยวกับการทำ SEO อยู่แล้ว สามารถใช้เครื่องมือนี้ ในการหาไอเดีย เพื่อนำไปทำคอนเทนต์ลงหน้าเพจได้ ซึ่ง Ahrefs จะแนะนำ Keywords ที่เกี่ยวข้องและมีปริมาณการเสิร์ชเยอะมาให้ หรือหากอยากทราบว่า Keywords ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของเรามีการแข่งขันสูงหรือเปล่า Ahrefs ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะแสดงผลออกมาในรูปของ KD [Keyword Difficult] ยิ่งสูงก็ยิ่งติดยาก ทำให้เราสามารถคัดกรองและเลือกใช้ Keyword ที่มี KD ต่ำเพื่อให้ติดหน้าเสิร์ชแรก ๆ ได้นั่นเอง

    เครื่องมือนี้มีราคาตั้งแต่ 3,400 - 34,000 บาท หากใครสนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://ahrefs.com/

  2. Google Search Console เป็นเครื่องมือ Martech จาก Google ที่จะช่วยในการตรวจสอบ ดูแลให้เว็บไซต์ทั้งในด้านของคุณภาพและข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเว็บไซต์แบบละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาของ URL หรือปัญหาเรื่อง Mobile Usability

    ซึ่ง Features ภายในเครื่องมือ Martech นี้ได้แก่ การรายงานประสิทธิภาพในการเข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic Search การตรวจสอบสถานะการเก็บข้อมูล (Indexing) ของแต่ละหน้าภายในเว็บไซต์ การตรวจปัญหาภายในเว็บไซต์ ในเรื่องของ URL และไฟล์ Sitemap ที่เปรียบเสมือนแผงผังของเว็บเพื่อจะบอกให้ Google ทราบว่า URL ทั้งหมดของเว็บไซต์ของเรานั้นมีอะไรบ้าง

    เครื่องมือ Google Search Console จะเน้นการใช้งานไปที่การ Monitor ดูแลและตรวจสอบปัญหาเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้สามารถปรับปรุงแก้ไขให้ตรงจุด รวมถึงยังมีการให้คำแนะนำต่าง ๆ กับผู้จัดทำเว็บไซต์ด้วย

    เราสามารถใช้งานเครื่องมือ Martech นี้ได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีการติด Tag url ใน Google analytics ก่อนนะ Search Console

  3. Google Keyword Planner เครื่องมือสุดเจ๋งจาก Google ที่ช่วยทำ Keyword Research และวางแผนเกี่ยวกับ Keyword โดยสามารถค้นหา Keyword ใหม่ ๆ ที่ช่วยในการติดอันดับบน Search Engine ได้แบบมืออาชีพ

    เครื่องมือนี้สามารถใช้เพื่อค้นหา Keyword Idea ใหม่ ๆ ดูเทรนด์ การแข่งขัน และเน้น Forcasts จากการยิงโฆษณาแบบ SEM ที่มีรันอยู่แล้วได้ ซึ่ง SEO สามารถนำไปช่วยหา Keyword ใหม่ จัดทำ Media plan ดูเทรนด์ของสินค้าในแต่ละช่วงเวลา ดูปริมาณ Avg. Monthly Searches เพื่อใช้ในการเลือก Keywords ที่มีผลกระทบสูงกับแบรนด์ ประเมินบทบาทของ SEO ที่จะช่วยให้การซื้อโฆษณาถูกลง และใช้เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลว่า คุ้มค่ากับการปั้น Keywords เหล่านั้นหรือไม่ เราสามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีการติด Tag url ใน Google analytics ก่อน Google Keyword Planner

  4. Google Trend เป็นเครื่องมือ Martech ที่ใช้เพื่อช่วยเหลือการตรวจสอบความนิยมของ Keywords บนโลกออนไลน์ โดยที่ Keywords นั้นจะเป็นคำว่าอะไรก็ได้ ไม่จำกัดว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าของเราเพียงอย่างเดียว

    เครื่องมือ Martech นี้ใช้เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการวางแผนธุรกิจผ่านการวิเคราะห์ทิศทางตลาดบนโลกออนไลน์ ใช้สร้างคอนเทนต์คุณภาพผ่านการค้นหา Keywords ยอดฮิตเพื่อนำมาทำ SEO และใช้เพื่อสังเกตความนิยมของแบรนด์เพื่อประเมินความสำเร็จของแผนการตลาดแต่ละแผนบนโลกออนไลน์

    เราสามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีการติด Tag url ใน Google analytics ก่อนเหมือน 2 เครื่องมือจาก Google ก่อนหน้านี้ Google Trend

  5. PageSpeed Insights เป็นเครื่องมือ Martech ที่ใช้เพื่อวัดผลความเร็วของหน้าเว็บ โดย Google จะมีการให้คะแนนของ PageSpeedเป็นคะแนนเต็มอยู่ที่ 100 คะแนน ยิ่งคะแนน PageSpeed Insights ของคุณดี โอกาสที่เว็บจะขึ้นมาแสดงบนหน้าแรกก็จะมีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผลที่วัดได้ไม่ได้แสดงถึงความเร็วของเว็บ แต่เป็นการให้คะแนนการทดสอบความเร็วเว็บไซต์จาก Google อย่างเดียวเพียงเท่านั้น


    ในเครื่องมือนี้จะมี features ต่าง ๆ มากมาย ทั้ง Performance score ซึ่งรันโดย Lighthouse และ วิเคราะห์โดย Lab Data อีกทั้งยังมีการคิดคะแนน Error รวมกันจาก First Contentful Paint (FCP), First Input Delay (FID), Largest Contentful Paint (LCP) แะล Cumulative Layout Shift (CLS)

    PageSpeed Insights มีประโยชน์ในการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์และประสบการณ์การใช้งาน (UX&UI) ให้ลื่นไหลตอบโจทย์การใช้งานทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้เราทราบว่าต้องปรับคอนเทนต์และรูปภาพไปในทิศทางใดถึงจะเข้ากับเว็บไซต์ อีกทั้ง Google ยังมอง PageSpeed ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการใช้งานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอีกด้วย

    เครื่องมือ Martech นี้ก็สามารถใช้ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย pagespeed

  6. Google Analytics 4 [GA4] เป็นเครื่องมือ Martech จาก Google ที่จะช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ได้ทราบถึงข้อมูลทางสถิติที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของตัวเองได้แบบ Real-Time โดยเครื่องมือ Google Analytics สามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางในการเข้าถึงเว็บไซต์ ลักษณะและพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ รวมถึงสถิติการเข้าชมในแต่ละหน้าเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถนำมาข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการตลาดให้ดียิ่งขึ้น

    อีกทั้งยังสามารถเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่จะทำให้เราทราบถึงปัญหาหรือโอกาสด้านการตลาดที่มีและใช้สำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ เพื่อจะทำให้ธุรกิจเติบโตและมียอดขายเพิ่มขึ้น

    เราสามารถใช้งานเครื่องมือ Martech นี้ได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ห้ามลืม ต้องมีการติด Tag url ใน Google analytics ก่อน analytics.google 


สุดท้ายนี้ ใครที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือใช้ทุกตัวช่วยแล้วเว็บไซต์ก็ยังไม่ขึ้นหน้าแรกของ Search Engine ทักมาหา NIPA สิ! เรามี Services ให้แบบครบวงจร เพิ่มความมีชื่อเสียงของแบรนด์ เพิ่มยอดขายให้กับสินค้าและบริการของคุณได้อย่างแน่นอน ลองมาทำความรู้จักเราพร้อมรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้เลย


ส่วนลดพิเศษ คลิกเลย👇


บทความที่เกี่ยวข้อง
SEO
ทำความเข้าใจ Keyword Research สิ่งสำคัญก่อนลงมือทำ SEO

SEO
Voice Search Marketing คืออะไร ? ทำไมถึงสำคัญกับการทำ SEO ในปี 2024

SEO
SEO ยังจำเป็นอยู่ไหม ในเมื่อ SEM ทำให้ติดหน้าแรก Google ได้ทันใจกว่า?!

SEO
Canonical tags คืออะไร เทคนิคลับ SEO ที่น้อยคนจะรู้จัก

View all

รับคำปรึกษาฟรี!
บริการที่น่าสนใจ
บริการของคุณ