เคลียร์ชัด 3 เทคนิค SEO on-page off-page และ technical SEO ฉบับรวบยอด

การทำ SEO ถือเป็นเทคนิคทางการตลาดที่ใช้เงินลงทุนต่ำ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ช่วยให้แบรนด์หาลูกค้าได้แบบออแกนิกผ่านโอกาสการแสดงผลในหน้าค้นหาเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากนั้น SEO ยังช่วยกรองหากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสูงที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในอนาคต ซึ่งการจะปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้าตาและถูกใจ Search engine ยักษ์ใหญ่อย่าง Google ได้นั้น ต้องอาศัยการทำ SEO ทั้ง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น On page SEO, Off page SEO และ Technical SEO

On page SEO คือ

On page SEO คือ การปรับปรุงปัจจัยภายในเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้ Search Engine สามารถค้นหา เข้าใจ และจัดอันดับเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น 

ส่วนประกอบของ on page SEO มีดังนี้

1. ปรับ URL ของหน้าเว็บเพจให้สั้น และอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดลงใน URL
2. ใส่คีย์เวิร์ดไว้ในคำแรกๆ ของ Title Tag 
3. เพิ่มคีย์เวิร์ดลงใน 150 คำแรกของเนื้อหาคอนเทนต์
4. ใน H1, H2 และ H3 ควรมีคีย์เวิร์ดประกอบอยู่ด้วย
5. ใช้รูปภาพที่แบรนด์เป็นผู้ผลิตเอง 
6. เพิ่ม Alt tags สำหรับรูปภาพ หรือไฟล์อื่นๆ เพื่อให้บอทของ Google สามารถเข้าใจว่าภาพหรือไฟล์ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
7. ใส่คำใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดลงไปในเนื้อหาคอนเทนต์ เช่น คีย์เวิร์ดคือ “เทคนิคทำ SEO” อาจใส่คีย์เวิร์ด “เทคนิคทำ SEO” หรือ “เทคนิคทำ เอสอีโอ” ลงไปในคอนเทนต์ด้วย
8. ใส่ Internal links ของคอนเทนต์อื่นๆ ภายในเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ใช้เวลาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น
9. ใส่ External links เพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับคอนเทนต์ จากการค้นคว้าข้อมูลและอ้างอิงเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

Off page SEO คือ

Off page SEO คือ การทำ SEO นอกเว็บไซต์ของแบรนด์เอง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์ บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของแบรนด์มีคุณภาพ และมีเว็บไซต์อื่นหยิบยกไปใช้อ้างอิง ซึ่งจะส่งผลให้ Google ประเมินคะแนนของเว็บไซต์สูงขึ้นอีกด้วย โดยส่วนมากเมื่อพูดถึงการทำ Off page SEO แล้วนั้น หลายคนมักจะนึกถึงการทำ Backlink เป็นอันดับแรกแน่นอน  

เจาะเทคนิคยอดฮิตกับการทำ Backlink  

Backlink SEO เป็นเทคนิคการทำ SEO ที่ใช้การวางลิงก์เว็บไซต์ของแบรนด์ บนเว็บไซต์ภายนอก เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์นั้นๆ สามารถคลิกลิงก์และถูกพามายังเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจให้กับเว็บไซต์ของแบรนด์ได้อีกวิธีหนึ่ง

หลักการหลักของ Backlink SEO คือ เมื่อมีเว็บไซต์ A วางลิงก์ของเว็บไซต์ B จะส่งผลให้เว็บไซต์ B ได้รับความน่าเชื่อถือจากเว็บไซต์ A ตามไปด้วย ส่งผลให้เว็บไซต์ B มีโอกาสได้อันดับที่สูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์การค้นหา และจะเพิ่มโอกาสถูกพบเห็น ทั้งยังสามารถเรียก Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น

สร้าง Backlink ให้มีประสิทธิภาพ สามารถทำได้โดยดังนี้

1. หาพาร์ตเนอร์จากเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน หรือส่งเสริมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนการทำ Backlink SEO
2. สร้างเว็บไซต์หรือบล็อกขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้ในการทำ Backlink สนับสนุนเว็บไซต์หลัก
3. ติดต่อขอซื้อพื้นที่จากเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ เพื่อนำเสนอแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

การทำ Back link SEO ให้มีความน่าเชื่อถือและได้อันดับคะแนนที่ดีน้้น จำเป็นต้องมองหาเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงการทำ Backlink สายเทาหรือสายดำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะถูก Google ลงโทษในอนาคต นอกจากนี้การทำ Off page SEO ยังมีเทคนิคอื่นๆ อีกด้วย เช่น การทำ Content marketing การใช้ช่องทาง Social media รวมถึงทารจ้าง Influencer ให้รีวิวสินค้าและบริการ เป็นต้น

Technical SEO คือ

การทำ Technical SEO เป็นเทคนิคที่ครอบคลุมทุกปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดทำ Indexing และการ Crawling ของบอทจาก Google โดยการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้บอทสามารถค้นพบเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น สามารถรวบรวมข้อมูลได้ไวหรือทำความเข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ใด้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถประเมินคะแนนคุณภาพและจัดอับดับเว็บไซต์ของแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม 

เทคนิคการทำ Technical SEO มีดังนี้

1. วางโครงสร้างของเว็บไซต์ (Sitemap) และส่งไปให้กับ Google โดยทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้เรียบง่ายและชัดเจน ใช้ Breadcrumbs เพื่อทำหน้าที่นำทางภายในเว็บไซต์ 
2. เพิ่มความเร็วการโหลดหน้าเว็บไซต์ (Page Speed) อาจทำได้โดยการลดขนาดไฟล์ หรือใช้ไฟล์รูปแบบ .webp บีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง และใช้เครื่องมือ Google Analytics หรือ Google Page Speed Test ในการตรวจสอบประสิทธิภาพและเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลด
3. ตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีการใช้งาน https เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ให้ผู้เข้าชมสามารถสบายใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน หรือหมายเลขบัตรเครดิต จะถูกปกป้องเป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์ให้ดีขึ้นอีกด้วย
4. ปรับเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly)
5. หลีกเลี่ยงการทำซ้ำเนื้อหา ทั้งภายในเว็บไซต์ และการนำเนื้อหามาจากเว็บไซต์ภายนอก เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับบทลงโทษจากทาง Google
6. ตรวจสอบและทำการปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของ Core Web Vitals โดยสามารถเช็กได้จาก Google Search Console จากนั้นไปที่ Experience และเลือก Core Web Vitals จากนั้นคลิก View Details

เพิ่มคุณภาพเว็บไซต์ให้ดีขึ้นด้วยการมองหาบริการรับทำ SEO On page, Off page และ Technical  

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเริ่มปวดหัวและจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มทำ SEO ด้วยเทคนิคใดหรือเริ่มจากส่วนไหนของเว็บไซต์ก่อนดี การมองหาตัวช่วยจากผู้ให้บริการรับทำ SEO เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทที่รับทำ SEO เหล่านี้ มักมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ คอยดำเนินการให้โดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์จากการทำ SEO จะเป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้แน่นอน

Nipa มีบริการ SEO ที่ครอบคลุมทั้ง 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บริการรับทำ SEO On page, Off page หรือ Technical ดำเนินการด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณก้าวไปสู่เป้าหมายที่กำหนดได้ในราคาที่เหมาะสม ไม่ผิดกฎของ Google และรักษาผลลัพธ์ที่ดีได้ในระยะยาว