02-639-7878 ext 990

Office Hour Mon - Fri 9.00 am - 7.00 pm

Close This Window
LINE Ads
Facebook Ads
Instagram Ads
Google Ads
YouTube Ads
Twitter Ads
TikTok Ads
Website & Landing Pages
SEO ( Search Engine Optimization )
Content Marketing
Email & SMS Marketing
Influencer
Video Ads
Chatbot Services
Submit
Nipa Digital Marketing Add Line Nipa Digital Marketing Messenger
Digital Marketing

ถอดบทเรียนซีรีส์ “สาธุ” สู่ทริคสร้างเพจ facebook ยังไงให้จับสายมูได้อยู่หมัด

Homepage
Articles
Digital Marketing
ถอดบทเรียนซีรีส์ “สาธุ” สู่ทริคสร้างเพจ facebook ยังไงให้จับสายมูได้อยู่หมัด
ถอดบทเรียนซีรีส์ “สาธุ” สู่ทริคสร้างเพจ facebook ยังไงให้จับสายมูได้อยู่หมัด

สร้างเพจ facebook


ถอดบทเรียนซีรีส์ “สาธุ” สู่ทริคสร้างเพจ facebook ยังไงให้จับสายมูได้อยู่หมัด


เคยมั้ย ก่อนออกจากบ้านก็ต้องเช็กว่าวันนี้เราใส่เสื้อสีมงคลรึเปล่า? หรือเช็กดวงรายวัน Pick a card รายเดือน หรือมีเครื่องรางติดตัวไปด้วยตลอดเวลาเพื่อความสบายใจ ไปขอเนื้อคู่ที่วัดชื่อดัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวันเกิด วัดไหนว่าดีว่าปังเราก็ไม่พลาด และถ้ารู้ตัวว่ากำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้ แสดงว่าเราก็น่าจะเป็นหนึ่งในสายมูเตลูที่อาจโดนหลายๆ แบรนด์ตกด้วยการตลาดที่แยบยลนั่นเอง 


“เพราะกลุ่มคนกลุ่มนี้ อาศัยความเชื่อเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ เจ้าของแบรนด์จึงต้องเชื่อ ในความเชื่อนั้นๆ ด้วย”  


วันนี้ Nipa Agency นำอีกหนึ่ง Case study จากซีรีส์ชื่อดังที่เป็น Netflix Original “สาธุ” ที่ดังกระฉ่อนในเรื่องของไอเดีย และความกล้าในการเอาประเด็นพุทธพาณิชย์มาสร้างเป็นหนัง เพราะประชากรไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังเชื่อในศาสนาพุทธ และยังคงเข้าวัดเข้าวามาทำบุญกันอยู่ในปัจจุบัน แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับนำเสนอมุมมองของวัดในเชิงพาณิชย์ที่แตกต่างออกไป และมีหลากหลายประเด็น หลายกลยุทธ์ ที่สามารถนำมาต่อยอดในเชิงการตลาดได้ ทั้งปั้นแบรนด์ด้วยการสร้างเพจ Facebook การขยันทำคอนเทนต์ หรือแม้แต่การโปรโมตด้วยวิธีดั้งเดิมอย่างการลงโฆษณา facebook  และอื่นๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ไปดูกันเลยว่ามีกลยุทธ์อะไรบ้าง 


ถอดบทเรียนจากซีรีส์ “สาธุ” สร้างแบรนด์ให้ปัง สร้างเพจให้ดังเหมือน “วัดภุมราม”

*Spoiler Alert*


1. กำหนด Objective ให้ชัดตั้งแต่แรก

ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติภารกิจ แน่นอนว่าเราต้องกำหนดจุดประสงค์ให้ชัดเจนเลยตั้งแต่แรก เหมือนที่ตัวละครหลักทั้ง 3 “วิน เกม และเดียร์” ได้มีจุดประสงค์อันแรงกล้าอยู่แล้วว่าจะ Re-branding ซึ่งคือการแปลงโฉมแบรนด์ใหม่ทั้งหมดให้วัดภุมาราม แต่ยังคงไว้ที่ Identity และชื่อแบรนด์เดิม เปลี่ยนแม้กระทั่งการสื่อสาร การทำ PR Touch Point เกือบทั้งหมด พอเรากำหนดจุดประสงค์ เราก็จะกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ และการวัดผลได้ในอันดับต่อไป 


2. ไม่ควรรู้จักแบรนด์ตัวเอง, ลูกค้า และคู่แข่ง แค่ผิวเผิน

จะเห็นว่า วิน เกม และเดียร์ ได้เข้าไปทำการ Observation ตามวัดต่างๆ นั่นก็คือ การสังเกตการณ์ภายในวัดที่จะทำการตลาด และวัดคู่แข่ง รวมถึงศึกษา Market Size เพื่อให้ได้รู้ว่าควรลงทุนกับส่วนไหน เกมได้เข้าไปสัมภาษณ์ชาวบ้าน เป็นการ Dept Interview เพื่อเก็บ Insight ได้ดีทีเดียว ที่สำคัญคือการเข้าไปสังเกตการณ์ ตีเนียนเป็นชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูลว่า อะไรคืออุปสรรค และอะไรคือโอกาส แม้กระทั้งยืนนับจำนวนคนเข้าออกวัด เพื่อให้ได้รู้จำนวน Target คร่าวๆ ด้วย


“เพราะแบรนด์ใหม่ ต้องทุ่มเทกับการค้นหาตัวเอง ลูกค้า และคู่แข่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งความชัดเจนว่าเราคือใคร เราขายใคร และเราแข่งกับใคร” 


3. ใช้ Insight และ Data ให้เป็นประโยชน์ เพราะมันอาจพลิกชะตาให้แบรนด์

เปรียบ Big data คือ ข้อมูลพื้นฐานอย่าง ยอดบริจาค ยอดทำบุญโลงศพ ประกอบกับ Insight หรือเบื้องลึกของผู้ที่มีกำลังศรัทธาที่พร้อมจะทำบุญให้วัด พอเอามาประกอบใช้ร่วมกัน ทำให้กลายเป็น Idea การทำกลยุทธ์สุดปังอย่าง Faith Marketing คือการตั้งราคาขายตามความเชื่อ และตามกำลังศรัทธาที่ประเมินค่าไม่ได้ 


4. เลือกช่องทางทำการตลาดทั้ง Online และ Offline ให้ครอบคลุม

มาถึงขั้นตอนการสื่อสาร เราอาจจะต้องเลือกช่องทางที่จะทำการสื่อสารก่อน โดยเลือกจาก Channel ที่ลูกค้าใช้งาน อย่าง Facebook ที่วัดภุมรามก็ได้ทำการเปิดสร้างเพจ Facebook เข้าไปเปลี่ยน Display และ Cover เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ ในส่วนของช่องทาง Offline ก็มีทั้งป้ายไวนิล การทำ Transit Advertising บนรถสองแถวที่ชาวบ้านจะได้เห็นง่ายๆ และ Out Of home Ads มากมาย อย่างรถเคลื่อนที่พร้อมมีเครื่องเสียงเชิญชวนชาวบ้านร่วมงานบุญ นับว่าเป็นการครองพื้นที่สื่อได้แยบยลมากทีเดียว 


5. สร้างเพจด้วย Content Marketing ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า

ถึงเวลาที่จะต้องปั้นเพจด้วยการทำคอนเทนต์ลงเพจอย่างสม่ำเสมอ ก็มีส่วนให้ Page Performance ดีไปด้วย เพจไหนที่ต้องการ การโปรโมทเพจ หรือลงโฆษณา facebook ก็ไม่ควรมองข้ามการทำคอนเทนต์ เพื่อสร้างการรับรู้ การจดจำได้อีกด้วย อย่างการทำคอนเทนต์ของเพจวัดภุมาราม ก็มีทั้งโพสต์หน้าเพจ ไลฟ์เทศนาโดยพระดล และมีการสร้างพอดแคสต์เทศนา นับว่าเป็นการทำคอนเทนต์ที่มีหลากหลาย Format และน่าสนใจในกลุ่มลูกค้ามากทีเดียว 


6. ทำ Outbound Marketing ด้วยการลงโฆษณา facebook

มีสื่อแล้วก็ต้องมีการโปรโมตด้วยการใช้เงินกันบ้าง แต่มันจะเป็นเรื่องหมูมาก ถ้าแบรนด์ทำการบ้านมาอย่างดีในข้อ 1 และ ข้อ 2 ที่กล่าวไปข้างต้น เราจะรู้ Target Audience ของเราว่าเป็นใคร Interest ของกลุ่มลูกค้าเราเป็นยังไง และมีวัตถุประสงค์อะไร Journey ของลูกค้าเป็นยังไง เพื่อให้ได้กำหนด Call to action ได้ถูก และการยิงแอดจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้ามีการทำคอนเทนต์ที่ดี ในการสร้างเพจ  AI จะตรวจจับได้ว่าเพจนี้ มี Page Performance ที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้การลงโฆษณา facebook มีประสิทธิภาพไปด้วย


7. สร้าง Storytelling แบบทำให้ลูกค้าอินได้ง่ายๆ 

การสร้างสตอรี่ มีผลต่อการสร้างแบรนด์ และการสร้างเพจ เพราะเราจะมีตัวตนในสายตาลูกค้าทันทีถ้าสตอรี่ของเราน่าจดจำ การสร้างสตอรี่ธรรมดาๆ ลูกค้าอาจไม่ว้าว แต่ถ้าเราลองสร้างสตอรี่แบบในเรื่องสาธุ ร้อยเรียงเรื่องราวใหม่ให้วัดภุมาราม ก็อาจจะอินได้ง่ายๆ อย่างการเอารูปปั้นพระที่มีรังผึ้ง ที่ตอนแรกมองว่ามันก็แค่รังผึ้งธรรมดาๆ ที่ต้องกำจัด แต่วินก็ดันปิ๊งไอเดียนำมาสร้างสตอรี่ใหม่ ด้วยการนิยามว่า นี่คือ “หลวงพ่อพึ่ง” คล้องจองกับคำว่าผึ้ง และ “พึ่ง” นี้ ก็แปลว่าพึ่งพา ซึ่งก็ได้นำมาต่อยอดเป็นวัตถุมงคลอีกด้วย 


8. Influencer Marketing มีผลต่อการปั้นแบรนด์

Insider Intelligence ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับ Influencer Marketing ซึ่งผลลัพธ์คือ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่าการลงโฆษณา ถึง 32.8% จากปี 2021 จากนั้นค่อยๆ ลดลงมาอยู่ที่ 14.7% ในปี 2023 และยังคงนิยมจนถึงปัจจุบัน ทีมรีแบรนด์ให้วัดภุมาราม ก็เล็งเห็นเหมือนกันว่า Influencer Marketing นั้นสำคัญแค่ไหนในการดึงชาวบ้านให้มาทำบุญที่วัด จึงเกิดไอเดียในการดึงตัว “พระดล” พระวัดป่าที่มีฐานแฟนคลับมากมาย มาเป็น Influencer ให้วัด พร้อมกับโปรโมตกิจกรรมเทศนาโดยพระดลผ่านช่องทางต่างๆ ช่วยเพิ่ม Engagement ให้คนติดตามเพจได้เยอะขึ้น บอกเลยว่าแบรนด์ไหนถึงเปิดตัวแบรนด์ อยากสร้างเพจ อยากลงโฆษณา ต้องไม่ควรพลาดการทำ Influencer Marketing


จะเห็นว่าเทรนด์มูเตลูนั้นมาแรงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ยังให้ความสนใจกับการดูดวง ความเชื่อ โชคลาภ ฯลฯ ทำให้เกิดอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่ชื่อว่า Muketing ซึ่งแก่นแท้ของการทำ Muketing ให้แข็งแกร่งนั้น คือ การเชื่อมโยงกับเรื่องความเชื่อและ Insight ของ Target ไปพร้อมกับกลยุทธ์อื่นๆ อย่างสร้างสรรค์ เป็นเหมือนจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นที่ต่อเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวนั่นเอง 


แบรนด์ไหนอยากเข้าศาสตร์ Muketing เพื่อดึงดูดลูกค้าสายมู แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง มาปรึกษา Nipa Agency ได้ เราพร้อมเปิดไพ่ให้ได้ Pick a Package ช่วยคุณสร้างเพจ และพร้อมดูแลแบรนด์ของท่านให้ประสบความสำเร็จ Success ได้ตามเป้าแน่นอน! 


PROMOTION FOR YOU


Related Articles
Digital Marketing
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คืออะไร?

Digital Marketing
Hyper Personalization ขั้นกว่าของความเข้าใจ สื่อสารได้แบบตรงจุด!

Digital Marketing
ก้าวสู่ความสำเร็จทางธุรกิจด้วยการตลาดออนไลน์กับ นิภา เทคโนโลยี

Digital Marketing
รอบรู้เรื่อง E-Commerce กับ นิภา เทคโนโลยี

View all

Get More Detail
Interested Services
Please Select Services