ทำโฆษณา Youtube อย่างไร มัดใจผู้ชมได้อยู่หมัด ไม่ต้องกลัวโดนบล็อก

โฆษณา Youtube ช่องทางเข้าถึงลูกค้าคนไทยกว่า 94.2%

ในยุคทองของการทำธุรกิจออนไลน์เช่นนี้ หากธุรกิจไหนยังไม่รีบขยับขยายมาสู่โลกออนไลน์ ดูจะเป็นการทำธุรกิจที่ล้าสมัยไปเสียแล้ว แต่ถ้าหันมาทำธุรกิจในโลกออนไลน์แล้วยังไม่คุ้นเคย จะหาลูกค้าจากไหน จะเอาโฆษณาไปแปะไว้ตรงไหนดี มาดูกันที่แอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้สูงสุดในประเทศไทยอย่าง Youtube กันเลยดีกว่า แอปพลิเคชันที่หากคุณทำโฆษณา Youtube เชื่อว่าคนไทยกว่า 62 ล้านคนอาจมีโอกาสได้เห็น!

จากรายงานของ Global Digital Report 2021 โดย Hootsuite และ We are Social  Youtube กลายมาเป็นโซเชียลมีเดียแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย โดยสามารถแซงหน้าอันดับหนึ่งที่ครองแชมป์มายาวนานอย่าง Facebook ได้อย่างฉิวเฉียด เหตุผลหลักๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคนี้ ผู้คนจำเป็นต้องหันมาใช้ชีวิตอยู่บ้านกันมากขึ้น คอนเทนต์วิดีโอและสื่อความบันเทิงต่างๆ จึงกลายมาเป็นเบอร์ต้นๆ ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมองหา

ทำความเข้าใจคร่าวๆ รวมรูปแบบโฆษณา Youtube ที่คุณสามารถเลือกได้

การลงโฆษณา Youtube สามารถแบ่งได้ตามเงื่อนไขการรับชมเป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ ดังนี้

1. TrueView Ads หรือ Skippable Video Ads (โฆษณาที่กดข้ามได้) ความยาวของ โฆษณา Youtube รูปแบบนี้สามารถมีความยาวได้สูงสุดถึง 30 วินาที โดยหากผู้ชมรับชมไปแล้ว 5 วินาที จะสามารถเลือกกดข้ามได้ หากพวกเขาไม่ได้มีความสนใจที่จะรับชมต่อ ข้อดีคือเงื่อนไขเช่นนี้จะช่วยคัดกรองผู้ชมที่มีโอกาสเป็นลูกค้าในอนาคตได้ดี และจะไม่ถูกเก็บค่าโฆษณาหากผู้ชมรับชมไม่เกิน 5 วินาทีแรกอีกด้วย
2. Non-Skippable Video Ads (โฆษณาวิดีโอที่กดข้ามไม่ได้) โฆษณา Youtube ที่กดข้ามไม่ได้ถูกจำกัดให้มีความยาวอยู่ที่ 15 วินาที เป็นคลิปที่สามารถส่งใจความสำคัญที่ต้องการสื่อสารให้ลูกค้าได้ต่อเนื่อง จากต้นจนจบ จึงเหมาะกับการโปรโมตการเปิดตัวสินค้าหรือบริการ แคมเปญการตลาด โปรโมชันครั้งยิ่งใหญ่  และโฆษณา Youtube รูปแบบนี้ยังสามารถปิดท้ายด้วย Call to Action เพื่อชี้ให้ผู้ชมเห็นแนวทางในการสร้างปฏิสัมพันธ์ขั้นถัดไปกับธุรกิจ
3. Bumper Ads (โฆษณาที่แสดงเพียง 6 วินาทีและไม่สามารถกดข้ามได้) โฆษณา Youtube รูปแบบนี้แม้จะเป็นวิดีโอสั้นๆ เพียง 6 วินาที แต่สามารถแนบลิงก์แคมเปญการตลาดๆ ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อดึงดูด และมอบรายละเอียดเนื้อหาเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับการ โฆษณาที่มี Key Message ที่ทรงพลังเพียงใจความเดียว และสามารถสร้าง impact ได้ในระยะเวลาสั้นๆ

ทำโฆษณา Youtube อย่างไร มัดใจผู้ชมได้อยู่หมัด ไม่ต้องกลัวโดนบล็อก

ถึงแม้ Youtube จะมีโฆษณาที่ผู้ชมไม่สามารถกดข้ามได้ถึง 2 รูปแบบ แต่อย่างไรก็ตามผู้ชมก็ยังสามารถหาทางบล็อกโฆษณา Youtube ที่พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจได้อยู่ ดังนั้นนักการตลาดจำเป็นต้องรู้เทคนิคที่จะทำให้โฆษณา Youtube ของเรา เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้จริง โดยไม่ถูกบล็อกไปเสียก่อน

เทคนิคที่ 1 : เช็กให้มั่นใจว่าการเล่าเรื่องของคุณสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

เทคนิคแรกไม่ให้ผู้ชมบล็อกโฆษณา Youtube ดูจะเป็นเหมือนเรื่องง่ายๆ แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก จุดสำคัญที่จะช่วยให้โฆษณา Youtube ของคุณ เป็นวิดีโอที่น่าสนใจไม่ถูกกดข้ามหลัง 5 วินาทีแรก คือการสร้างเนื้อหาและเล่าเรื่องที่มีความเชื่อมโยงกับอารมณ์ ความรู้สึก หรือเรื่องราวที่ผู้ชมเคยพบด้วยตัวเอง

เทคนิคที่ 2 : รู้เขารู้เรา ลูกค้าเป็นใคร ชอบอะไร มีพฤติกรรมแบบไหน ต้องไม่พลาด

พฤติกรรมการใช้งาน ของแต่ละคน Youtube เข้ามาด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน และมีความชื่นชอบเนื้อหาวิดีโอต่างกันไป เพื่อให้เนื้อหาโฆษณา Youtube ของเราส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เราต้องรู้ถึงพฤติกรรมความชื่นชอบของลูกค้าเรา จะได้ทำเนื้อหาวิดีโอโฆษณา Youtube ออกมาได้ตรงใจ และเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย โดยทาง Youtube เองก็มีเครื่องมือที่จะช่วยคุณในเรื่องนี้ ‘Find My Audience’ เป็นเครื่องมือที่รวบรวมพฤติกรรมของผู้ใช้งาน Youtube ช่วยให้เรารู้ว่าผู้ชมของเราเป็นคนแบบไหน สนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำของการยิงโฆษณา Youtube ให้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น

เทคนิคที่ 3 : เลือกใช้โฆษณาหลากหลายรูปแบบ

โฆษณา Youtube มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย ดังนั้นหากคุณไม่อยากพลาดโอกาสที่จะเข้าถึงผู้รับชมในวงกว้างขึ้น ก็ไม่ควรที่จะยึดติดกับการโฆษณาเพียงรูปแบบเดียว ควรเลือกหลากหลายรูปแบบเข้ามาประกอบกัน หนึ่งในการผสมผสานที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่ง คือ การใช้ Skipable Ads ร่วมกับ Display Ads หลังจากที่ผู้ชมกด Skip Ads ไปแล้ว คุณยังสามารถดึงดูดให้ลูกค้าเข้าหาคุณด้วยการโชว์ Display Ads ที่มีคอนเทนต์น่าสนใจ และมี call to action ที่ชัดเจน

เทคนิคที่ 4 : ตามหา Keywords ที่ใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณไม่โดนบล็อกโฆษณา Youtube นั่นก็คือการคอยศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของ Keywords ต่างๆ ที่ถูกใช้จากกลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณจะเห็นถึงเทรนด์ความสนใจต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น โดยอาศัยเครื่องเหล่านี้ในการเช็กความนิยมของ Keywords ไม่ว่าจะเป็น TubeBuddy, vidIQ, Morning Fame, Ahrefs Keywords Explorer หรือ Google Trend

เทคนิคที่ 5 : ไม่หยุดอยู่กับกลยุทธ์เดิมๆ

การตลาดเป็นเรื่องของความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โฆษณา Youtube ตัวเดิมที่เคยได้ผลดี อาจกลายเป็นแย่ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ การหมั่นทำการทดลองแคมเปญโฆษณา Youtube ของคุณจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยอาจเริ่มจาก Keywords คุณสามารถสร้างลิสต์คีย์เวิร์ดที่คุณไม่อยากให้โฆษณาของคุณเข้าไปแสดงผลหากมีการค้นหา เพื่อช่วยประหยัดงบ และทำให้โฆษณามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

เทคนิคที่ 6 : ทำให้ลูกค้าทราบแบรนด์ให้ไว แต่ต้องน่าจดจำ

โฆษณา Youtube มักเน้นงานไว ยิ่งการโฆษณาในรูปแบบของ Skippable Ads คุณจะมีเวลาในการสื่อสารแบรนด์ออกไปแค่เพียง 5 วินาทีแรกก่อนที่ผู้ชมจะสามารถกดข้ามโฆษณาได้ ซึ่งก็ไม่ได้จำเป็นว่าคุณจะต้องโชว์ทั้งแบรนด์และ Logo ออกไปตั้งแต่ 5 วินาทีแรก แต่คุณสามารถที่จะออกแบบโฆษณา Youtube โดยใช้อัตลักษณ์ที่สื่อถึงแบรนด์ของคุณอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์ได้ตั้งแต่แรกเห็น

เทคนิคที่  7 : อย่าลืมแจ้ง Call to Action กับผู้ชม

เทคนิคสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำโฆษณา Youtube นั่นคือ การใส่ Call to Action ลงไปในแคมเปญโฆษณาของคุณด้วย ผู้ที่ได้รับชมโฆษณาของคุณจะได้รู้ว่าพวกเขาควรทำสิ่งใดต่อในขั้นตอนถัดไป คุณสามารถลิงก์ให้พวกเขาเข้ามาชมเว็บไซต์ ร้าน Official ใน Online Marketplace หรือรีบทำการสั่งซื้อก่อนจะหมดโปรโมชันก็ได้ทั้งนั้น