เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 19.00 น.
จีนนับว่าเป็นประเทศทรงอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจของโลก ซึ่งมีกลยุทธ์ทางด้านแผนการตลาดออนไลน์ที่แข็งแรง และสามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว สำหรับคนไทยหลายๆ คน เมื่อหันมองเครื่องใช้ภายในบ้านก็เริ่มมีสินค้าแบรนด์ดังจาก ‘จีน’ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์อย่าง ‘Xiaomi’ หรือ ‘เสียวหมี่’ หนึ่งในแบรนด์ที่ทำให้คนไทยลืมภาพจำเดิมๆ ของสินค้าจากประเทศจีนไปอย่างสิ้นเชิง
ทำให้กลยุทธ์แผนการตลาดออนไลน์ของแบรนด์ ‘Xiaomi’ น่าสนใจอย่างมาก ในการใช้งานสื่อโฆษณาออนไลน์ หรือ สื่อโฆษณาอื่นๆ ในการสร้างแบรนด์ให้กลายเป็นที่ยอมรับ จนในปัจจุบันสามารถ เติบโตอย่างก้าวกระโดดสูงถึง 102.6% ในปี 2017 และมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของครึ่งปีแรก ปี 2018 อยู่ที่ 9.3% ถือเป็นอันดับ 4 ของโลก
แน่นอนว่า ‘Xiaomi’ แบรนด์จากจีนสามารถมัดใจคนภายในประเทศได้ก่อน จึงขยายแผนการตลาดออนไลน์สู่ต่างประเทศ ซึ่งแบรนด์ Xiaomi เลือกโฟกัสที่ตัวสินค้าเป็นหลัก ต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยมีแนวทาง “สินค้าคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้” เป็นหลัก โดยก้าวแรกของแบรนด์ Xiaomi ถือว่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างมาก
เนื่องจากไม่มีการเปิดขายผ่านหน้าร้าน และใช้แผนการตลาดออนไลน์ในการกำหนดกลยุทธ์สื่อโฆษณาออนไลน์ ทำให้ประหยัดต้นทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างอย่างมากในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็น การทำ Digital marketing , โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube ที่ช่วยให้ผู้คนบนโลกออนไลน์เห็นสินค้าได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ในปัจจุบัน Xiaomi มีการทำแผนการตลาด โดยยึดแนวคิด New Retail ที่เป็นการค้าขายแบบผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้คนที่ตัดสินใจซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านสื่อโฆษณาออนไลน์ และสำหรับคนที่อยากสัมผัสสินค้า ก็สามารถทำการตัดสินใจซื้อได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
Xiaomi มีการใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ หลายๆ คนคงพบเห็น โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube ที่เป็นสื่อกลางในการพาผู้คนไปยังแพลตฟอร์ม E-Commerce เช่น Lazada และ shopee โดยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานทุกเพศ ทุกวัย ทั้งวัยรุ่น วันทำงาน และผู้สูงอายุ
ทั้งหน้าร้านออฟไลน์และสื่อโฆษณาออนไลน์ เช่น โฆษณา facebook, Google ads หรือ โฆษณา youtube
สร้างสื่อการรับรู้ด้านข้อมูลที่ละเอียดของสินค้า เช่น สเปคสินค้า, ขนาด, สื่อวิดีโอ, รูปภาพที่ชัดเจน หรือ วิธีการใช้งาน รวมถึงการรีวิวสินค้าที่แพร่หลายอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น pantip, Youtube เป็นต้น
เข้าถึงการซื้อได้ง่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ บนช่องทาง E-Commerce อย่าง Lazada, Shopee เป็นต้น
ใส่ใจกับสินค้าที่มีคุณภาพและราคาจับต้องได้ง่าย ทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจ
เมื่อเกิดความประทับใจกับสินค้า ทำให้ผู้ใช้งานเกิดการซื้อซ้ำนั่นเอง
ขั้นต่อไปเมื่อผู้บริโภคเกิดความประทับใจอย่างมาก และต้องการสนับสนุนก็จะมีการบอกต่อ ในช่องทางออไลน์ต่างๆ เช่น Pantip, facebook หรือช่องทางการรีวิวอื่นๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับแบรนด์ภายในประเทศไทย ก็สามารถนำกลยุทธ์แผนการตลาดของ Xiaomi ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งาน สื่อโฆษณาออนไลน์, แนวคิดของการพัฒนาคุณภาพสินค้า หรือ การวางแผนการเดินทางของผู้บริโภค (Customer Journey) เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแบรนด์มากขึ้นนั่นเอง